โควิด-19 พันธ์ุโอไมครอนระบาดดันยอดติดสะสมเกิน 200 รายใน 4 ทวีป

วันนี้ 30 พฤศจิกายน 2564 สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน หรือกลายพันธุ์ใหม่ที่มีรหัสพันธุกรรม B. 1.1.529 ซึ่งถูกตรวจพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าในรอบ 24 ชั่วโมงถึงเมื่อวานนี้ 29 พฤศจิกายน 2564 พบผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายใหม่ 46 ราย ส่งผลยอดติดเชื้อสะสมรวมเป็น 205 ราย ประกอบด้วย ประเทศแอฟริกาใต้ 114 ราย(+5) บอทสวาน่า 19 ราย(-) โปรตุเกส 13 ราย(+13) เนเธอร์แลนด์ 14 ราย(+1) อังกฤษ 11 ราย(+8) อิสราเอล 2 ราย(-) แคนาดา 5 ราย(+3) ออสเตรเลีย 5 ราย(+3) เดนมาร์ก 2 ราย(-) ฮ่องกง 5 ราย(+3) ออสเตรีย 1 ราย(-) อิตาลี 4 ราย(+3) สาธารณรัฐเชก 1 ราย เบลเยียม 1 ราย ฝรั่งเศส 1 ราย สเปน 1 ราย เยอรมนี 5 ราย(+4)

ในก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 24 ถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน ตรวจพบจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 พันธ์ุโอไมครอนสะสม 83 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10 รายเมื่อ 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ นั่นหมายถึง พบการระบาดติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 70% ภายในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประเทศแอฟริกาใต้ นายโจ พาห์อาลา กล่าวว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ใหม่นี้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็วในเมืองกัวเต็ง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางเศรษฐกิจ มีประชาชนเดินทางเข้าออกเมืองจำนวนมากโดยมาจากทุกที่ของประเทศแอเพราะฉะนั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะได้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงมากขึ้น อัตราการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายโจ พาห์อาลา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกลุ่มผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนซึ่งในเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแอฟริกาใต้ ยอมรับว่า จำนวนผู้ป่วยส่วนใหญ่นี้เป็นกลุ่มตัวอย่างที่มีจำนวนน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งยังต้องติดตามและประเมินสถานการณ์กันต่อไป