โลกซึมหนัก น้ำมันดิบใช้น้อยลงมากกว่าที่คาดไว้

โอเปก กลุ่มประเทศผลิตและส่งออกน้ำมันดิบยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งมีสมาชิกเกือบทั้งหมดอยู่ในตะวันออกกลาง ประกาศลดปริมาณใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้ลงจากเดิมอีกครั้ง ล่าสุด ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกจะตกต่ำมากถึง 9.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะลดลงที่ 9.06 ล้านบาร์เรลต่อวัน
.
สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังไม่มีแนวชะลอตัวแต่อย่างใด หลายประเทศในยุโรป และอเมริกากลับต้องเผชิญการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหม่ หรือรอบที่ 2 อย่างรุนแรง ส่งผลราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทรุดดิ่งอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และมีความเป็นไปได้สูงที่ราคาน้ำมันดิบโลกจะไม่ฟื้นตัวในระยะยาว
.
นอกจากนี้ การปรับรูปแบบในการทำงานขององค์กร และธุรกิจทั่วโลกด้วยการลดการเดินทางอย่างมาก และทำงานในระยะทางไกลผ่านเครือข่ายเทคโนโลยีสื่อสาร ทำให้เป็นข้อจำกัดในการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางจากช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบในปี 2564 กระเตื้องขึ้นอย่างเชื่องช้ามากกว่าที่ประเมินไว้ กลุ่มโอเปกคาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2564 จะเพิ่มขึ้นเพียง 6.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ลดต่ำลงจากการคาดการณ์เดิมถึง 370,000 บาร์เรลต่อวัน ที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
.
สำหรับปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบทั่วโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มโอเปกเปิดเผยว่า แม้ว่าปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม มาเหลือที่ระดับ 260.6 ล้านบาร์เรล แต่กลับกลายเป็นปริมาณสต๊อกที่อยู่สูงค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี
.
ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกประเมินความต้องการใช้น้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในปีนี้จะมีปริมาณเฉลี่ยที่ 22.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงถึง 700,000 บาร์เรลต่อวันจากประมาณการณ์เดิม ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในปีนี้ และปีหน้ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง