ได้ไปต่อ! สหรัฐไฟเขียวใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน ต้านโควิด-19 ต่อไปได้

626
0
Share:
องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา หรือ FDA และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC เปิดแถลงร่วมว่า มีมติให้ยกเลิกคำสั่งหยุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นการชั่วคราว ซึ่งคำสั่งดังกล่าวนั้นประกาศเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา
การประกาศให้กลับมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นผลจากคณะกรรมการที่ปรึกษาปฏิบัติการการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ ACIP ของศูนย์ CDC มีมติเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ช่วงเช้า (ตามเวลาในสหรัฐ) ให้สามารถใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ต่อไปได้ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีคุณประโยชน์มาก เมื่อเปรียบเทียบกับความเสี่ยงของการใช้วัคซีนดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา เตรียมกลับมาปฏิบัติการกระจาย และฉีดวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ทันที เพื่อให้เป็นไปตามแผนและเป้าหมายการดำเนินงานฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวอเมริกัน
.
ดร.แจนเน็ท วู้ดค็อก รักษาการกรรมาธิการ องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา หรือ FDA แถลงว่า ความปลอดภัยเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด การยกเลิกการฉีดวัคซีนชั่วคราวที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างในมาตรการติดตามและเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างเข้มข้น องค์กร FDA มีความมั่นใจว่าวัคซีนป้องกันโรคระบาดูโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอหันสัน มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 นอกจากนี้ ความเสี่ยงของภาวะลิ่มเลือดอุดตันอยู่ในระดับต่ำมาก องค์กร FDA สรุปว่าคุณประโยชน์ของวัคซีนที่รับรู้ และมีศัยกภาพนั้น มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่รับรู้ได้กับการนำไปฉีดให้กับประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้สูงอายุ
.
ด้านกรรมการในคณะกรรมการที่ปรึกษาปฏิบัติการการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ ACIP ของศูนย์ CDC ได้เสนอว่า ถึงแม้ประโยชน์ในการใช้วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะมีมากกว่าปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แต่ควรจะระบุในสลากคำเตือนการใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน สำหรับผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปีลงมา สอดรับกับ คณะกรรมการความปลอดภัยแห่งองค์การเวชภัณฑ์ยุโรป หรือ PRAC ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาว่า คำเตือนเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ผิดปกติควรจะถูกระบุในข้อมูลการใช้วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ดังนั้น บุคลากรการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และประชาชนทั่วไป ควรตระหนักถึงความเป็นไปได้ของการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันภายใน 3 สัปดาห์หลังได้รับการฉีดวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2564 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา หรือ FDA และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC ขอให้หยุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพื่อให้มีการตรวจสอบ และสรุปสาเหตุที่ชัดเจน หลังพบรายงานว่าผู้ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว มีอาการลิ่มเลือดอุดตันเกิดขึ้น หลังพบว่ามีผู้ได้รับวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวน 6 ราย เป็นผู้หญิงทั้งหมด มีอายุระหว่าง 18 ถึง 48 ปี ในจำนวน 6 ราย ปรากฎว่า มีเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่อีก 1 รายอยู่ที่เนบลาสก้า ต้องเข้ารับการรักษาตัวในห้องไอซียู