ไทยพบติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสะสมแตะ 514 ราย กระจายแล้ว 14 จังหวัด

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงถึงการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. – 18 ธ.ค.64 เป็นต้นมา  พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน สะสมแล้ว 514 ราย ซึ่งได้กระจายใน 14 จังหวัด โดยเข้าประเทศทั้ง 3 ระบบ ได้แก่ ระบบไม่กักตัว(Test and go) ระบบแซนด์บ๊อกซ์ (Sand box) และระบบกักตัว(Quarantine) ที่รัฐสามารถตรวจจับได้

หลังจากนั้นได้ให้ผู้เดินทางกลับไปยังพื้นที่ต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในการควบคุมได้ แต่บางส่วนได้มีการสัมผัสใกล้ชิดผู้เดินทางจากต่างประเทศประมาณ 20% เช่น ไปเยี่ยมญาติ เลยทำให้อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ สำหรับอาการจากการติดเชื้อโอไมครอน ได้มีอาการน้อยจนถึงไม่มีอาการ 90% และมีอาการเล็กน้อย 10% อาการมาก 3-4% ขณะที่พบที่หลอดลมมากกว่าลงปอด

ดังนั้นอาการที่พบได้มากคือ ไอ แต่หากลงปอดจะมีความรุนแรงเช่นเดียวกับเดลต้า ส่วนการศึกษาจากผู้ติดเชื้อโอมิครอน 41 ราย ที่ทำการรักษาอยู่พบว่า อาการไอ 54% เจ็บคอ 37% ไข้ 29% ปวดกล้ามเนื้อ 15% มีน้ำมูก 12% ปวดศีรษะ 10% หายใจลำบาก 5% และไม่ได้กลิ่น 2% ซึ่งไทยพบอาการไม่ได้กลิ่นเพียง 1 ราย และได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 5 วัน จึงได้พบว่าหากให้ยาตั้งแต่ต้น อาการจะดีขึ้นภาพใน 24-72 ชั่วโมง อาการฟื้นกลับมาเป็นปกติได้