ไทยสะกัดขาโจ๋แห่ลงทุนเงินบิทคอยน์ ต้องแสดงฐานะรายได้ หรือสินทรัพย์

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ก.ล.ต. เตรียมประกาศมาตรการเพื่อชะลอการลงทุนเงินดิจิทัลของนักลงทุนรายย่อยทั่วไป หลังจากตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลในตลาดโลกเต็มไปด้วยแรงซื้อที่คึกคักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เงินบิทคอยน์ที่ราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์หลายครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้าลงทุนเงินดิจิทัลเป็นจำนวนมาก
.
สำหรับมาตรการในการชะลอความร้อนแรงในการลงทุนในตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลในประเทศไทยนั้น ก.ล.ต. เปิดเผยว่า นักลงทุนรายย่อยอาจจะต้องแสดงหลักฐานเกี่ยวกับรายได้ หรือสินทรัพย์ ก่อนที่จะทำการเปิดบัญชีการซื้อขายกับตลาดแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซี่ ทั้ง 6 แห่งที่ได้รับใบอนุญาตเป็นทางการ นอกจากนี้ นักลงทุนคนใดก็ตามที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายโดยบัญชีของตัวเอง จะต้องลงทุนผ่านผู้จัดการกองทุนที่ได้รับใบอนุญาต หรือที่ปรึกษาการเงินการลงทุนเท่านั้น
.
เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ยอมรับว่า ขณะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดเงินดิจิทัลมีอายุยังน้อย เช่น นักศึกษา หรือวัยรุ่น ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ก.ล.ต.รู้สึกเป็นกังวล ก.ล.ต.ตระหนักดีว่า นักลงทุนเหล่านี้ชอบนวัตกรรม และเทคโนโลยี แต่การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้มีความเสี่ยงที่มากมาย ดังนั้น ในสัปดาห์นี้ ก.ล.ต. เตรียมเปิดเผยกฎระเบียบใหม่ในการลงทุนเงินดิจิทัล ก่อนที่จัดการทำประชาพิจารณ์ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ จากผู้ให้บริการตลาดซื้อขายเงินดิจิทัล โบรกเกอร์ และหน่วยงานอื่นๆ
.
ทั้งนี้ ธุรกรรมการซื้อขายเงินดิจิทัลในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตในไทยมีความคึกคักพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าในเดือนมกราคมปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับในเดือนธันวาคม 2563 โดยมีมูลค่าพุ่งขึ้นถึง 65,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่า มากกว่า 90% ของการซื้อขาย เป็นนักลงทุนคนไทย