ไล่ลูกจ้างยาก! กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานชี้ไม่มีกฎหมายเลิกจ้างถ้าลูกจ้างไม่ไปตรวจหาโรคระบาดโควิด-19

นางโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดีและโฆษก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือกสร. เปิดเผยว่า นายจ้าง หรือเจ้าของกิจการธุรกิจไม่สามารถไม่ให้ลูกจ้างซึ่งไม่ผ่านการตรวจ หรือไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคระบาดโควิด-19 เข้าทำงานได้ ในขณะเดียวกัน นายจ้าง หรือเจ้าของกิจการธุรกิจต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง หากนายจ้างไม่ให้ลูกจ้างเข้าทำงาน และไม่จ่ายค่าจ้างหรือมีพฤติการณ์ใด ๆ ที่แสดงว่าเป็นการเลิกจ้างลูกจ้าง นายจ้างจะต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายให้แก่ลูกจ้างด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ลูกจ้างมีความเสี่ยงที่จะติดโรคระบาดโควิด–19 นายจ้างอาจมีคำสั่งให้ลูกจ้างเข้ารับการตรวจจากแพทย์ หรือมีคำสั่งให้ลูกจ้างเข้ารับการสร้างภูมิคุ้มกันโรค เพื่อป้องกันโรคเป็นการเฉพาะรายได้ และถือว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งที่มีลักษณะกำหนดขึ้นเพื่อคัดกรอง ป้องกัน เฝ้าระวัง รักษา และควบคุม ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด–19

รวมทั้งเป็นการป้องกันสุขภาพของบุคคลอื่น จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหากลูกจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุอันสมควร ถือว่าลูกจ้างฝ่าฝืนคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายตามนัยมาตรา 119 (4) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และมาตรา 583 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ทั้งนี้ การชี้แจงดังกล่าวของสกร.มีขึ้น เนื่องจากเกิดกระแสเกี่ยวกับนายจ้างมีประกาศหรือคำสั่งให้ลูกจ้างทุกคนเข้ารับการตรวจจากแพทย์ หรือเข้ารับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ด้วยการฉีดวัคซีน ในกรณีที่ลูกจ้างมีความเสี่ยงหรือต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด–19 แม้มีเจตนาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายให้อำนาจนายจ้างดำเนินการดังกล่าวได้