30 ปีข้างหน้ากทม.เสี่ยงจมน้ำ

983
0
Share:

เว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ “นิวยอร์กไทมส์” ของสหรัฐฯ รายงานว่า ปัญหาโลกร้อนนับเป็นภัยพิบัติทางนิเวศวิทยาที่ส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลก ไม่ว่าภัยธรรมชาติ อุณหภูมิโลก รวมถึงระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง ซึ่งงานวิจัยล่าสุดที่เผยแพร่ไม่นานนี้ ค้นพบความเสี่ยงจากระดับน้ำทะเล จนคาดการณ์ว่าพื้นชายฝั่งรวมถึงเมืองติดชายฝั่งจะต้องจมน้ำ ภายในอีก 30 ปีข้างหน้า
.
โดยเว็บไซต์ เนเจอร์ รีเสิร์จ วารสารวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติได้เผยแพร่งานวิจัยในชื่อ New elevation data triple estimates of global vulnerability to sea-level rise and coastal flooding ซึ่งผู้วิจัยได้พัฒนาวิธีคำนวณที่แม่นยำมากขึ้นทั้งจากข้อมูลดาวเทียม การประเมินแบบมาตรฐานในผลกระทบของระดับน้ำทะเลในพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้พบว่าภายในปี พ.ศ. 2593 แผ่นดิน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนประมาณ 300 ล้านคน จะอยู่ต่ำว่าระดับน้ำท่วมชายฝั่งเฉลี่ยในแต่ละปี ซึ่งนั่นก็หมายความว่า พวกเขาอาจเผชิญหน้ากับน้ำท่วมรุนแรงอย่างน้อยปีละครั้ง และภายในปี พ.ศ.2643 แผ่นดินที่เป็นที่อยู่ของประชาชน 200 ล้านคน คาดว่าจะอยู่ต่ำกว่าเส้นระดับน้ำขึ้น
.
โดยแผนที่แรกแสดงโอกาสที่มีพื้นที่จมใต้น้ำภายในปี พ.ศ.2593 ส่วนแผนที่ที่สอง ซึ่งเป็นส่วนประเมินใหม่ แสดงถึงส่วนต่ำสุดของพื้นที่ในประเทศที่จะจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ประชากรมากกว่า 20 ล้านคนในเวียตนาม อยู่ในพื้นที่ที่จะมีน้ำท่วม จากข้อมูลวิจัย หลายพื้นที่ในโฮจิมินต์ซิตี้ เมืองเศรษฐกิจสำคัญของเวียดนามจะหายไปกับน้ำ
.
ด้านนายสก๊อต เอ. คัลฟ์ นักวิจัยของ Climate Central กล่าวว่า ได้วัดระดับความสูงมาตรฐานโดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อแยกความแตกต่างระดับพื้นดินที่แท้จริงจากยอดของต้นไม้หรืออาคาร ดังนั้นเขาและเบนจามิน สเตราส์ หัวหน้าผู้บริหารระดับสูงของ Climate Central จึงใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อกำหนดอัตราความผิดพลาดและแก้ไขให้ถูกต้อง
.
ส่วนประเทศไทย ประชากรมากกว่าร้อยละ 10% ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จะเกิดการจมน้ำภายในปี 2593 เมื่อเทียบกับ 1% ตามการศึกษาก่อนหน้า โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร อยู่ในสถานะอันตรายอย่างยิ่ง
.
ขณะที่ ลอเล็ตต้า ฮีเบอร์ กิราเด เจ้าหน้าที่ด้านบรรเทาความเสี่ยงทางภัยพิบัติของยูเอ็นและอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯกล่าวว่า ปัญหาสภาพอากาศจะกดดันให้หลายเมืองหาทางออกมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน น้ำท่วมในหลายพื้นที่จากภาวะโลกร้อน ได้บีบให้เกษตรกรยากจนจำนวนมากต้องทิ้งผืนนามาหางานในเมืองแทน นับเป็นสมการอันโหดร้าย เช่นเดียวกับ เซียงไฮ้ เมืองเศรษฐกิจใหญ่ของจีน ระดับน้ำจะกลืนกินใจกลางเมืองใหญ่นี้ รวมถึงหลายเมืองรอบเซียงไฮ้
.
ที่สำคัญยังมีหลายเมืองติดชายฝั่งที่เสี่ยงจมใต้น้ำ ทั้งมุมไบในอินเดีย เมืองอเล็กซานเดรียในอิยีปต์ และบาสราในอิรัก โดยข้อมูลเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานกล่าวว่า การวิจัยนี้จะทำให้หลายประเทศต้องเริ่มเตรียมการย้ายให้ประชากรจำนวนมากเสียแต่ตอนนี้