ญี่ปุ่นติดโควิด-19 กว่า 40,000 คน มากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

กระทรวงสาธารณสุข ญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงช่วงเย็นวันนี้ 20 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 41,485 ราย ไม่เพียงทำสถิติมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเป็นต้นมา แต่ยังเป็นครั้งแรกที่มียอดติดเชื้อมากกว่าวันละ 40,000 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นมากกว่า 1,974,537 ราย อยู่อันดับที่ 31 ของโลก ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 13 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 18,457 ราย

สำหรับสถิติติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์เดิมเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ 19 มกราคม 2565 มีจำนวนกว่า 32,000 ราย

สถานการณ์การระบาดในกรุงโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น พบผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 8,638 ราย ทำสถิติมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยสถิติเดิมเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ 19 มกราคม 2565 มีจำนวน 7,377 ราย ส่งผลให้ทางการกรุงโตเกียวประกาศระดับคำเตือนภัยโรคระบาดโควิด-19 เป็นระดับ 4 หรือระดับสูงสุด ทำให้กรุงโตเกียวกลับมาอยู่ในระดับเตือนภัยโรคระบาดโควิด-19 ครั้งใหม่ในรอบ 3 เดือนครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ ทางการกรุงโตเกียว ประกาศยกระดับภาวะเฝ้าระวังและติดตามระบบสาธารณสุขเพิ่มขึ้นอีก 1 ขั้น ส่งผลให้เป็นระดับเฝ้าระวังและติดตามสูงขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากระดับสูงสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ ขณะที่อัตราการติดเชื้อเฉลี่ยรายวันในรอบ 7 วันติดต่อกันในกรุงโตเกียวเพิ่มขึ้นเป็น 5,386.1 ราย หรือทะยานขึ้น 358.3% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ แม้จะยังไม่ส่งผลกระทบจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลของกรุงโตเกียวในขณะนี้ แต่สัดส่วนครองเตียงโรงพยาบาลเพิ่มจาก 25% จากเมื่อวานนี้ ขึ้นมาเป็น 28.9% ในวันนี้

ด้านนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเตรียมประกาศมาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครอบคลุมทั้ง 13 เมืองซึ่งรวมกรุงโตเกียวด้วย คาดว่าจะประกาศในวันนี้ช่วงค่ำๆ หลังจากคณะผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขเห็นควรในมาตรการที่จะประกาศใช้โดยมีผลเป็นเวลา 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มกราคมจนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ มาตรการสำคัญ ได้แก่ ลดเวลทการให้บริการของสถานที่ต่างๆ ในที่สาธารณะ เช่น ร้านอาการ ผับ บาร์ ไนท์คลับ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสมีอยู่กว่า 78% ของประชาชน อย่างไรก็ตาม การฉีดเข็มบูสเตอร์ครอบคลุมเพียง 1.2% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ