SCB EIC มองโควิด 19 จะกระทบอุปสงค์การใช้เหล็กปีนี้ลดลงประมาณ 10% พร้อมทำให้ราคาเหล็กลดลง

733
0
Share:

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กของไทยผ่าน 3 ช่องทางได้แก่
.
1. อุปสงค์การใช้เหล็กในปี 2563 ของไทยคาดลดลงประมาณ 10%จากปีก่อน มาอยู่ที่ 16.7 ล้านตัน โดยแบ่งเป็น เหล็กทรงแบนหดตัว 14% มาแตะที่ระดับ 10 ล้านตัน จากผลของการผลิตรถยนต์และการก่อสร้างภาคเอกชนที่หดตัว เนื่องจากวิกฤต COVID-19 ทำให้ประชาชนชะลอการใช้จ่ายและภาคธุรกิจมีแนวโน้มลงทุนลดลง ขณะที่เหล็กทรงยาวคาดปรับตัวลงเล็กน้อย 3.5% มาอยู่ที่ 6.7 ล้านตัน เนื่องจากยังได้รับอานิสงส์จากงานก่อสร้างโครงการภาครัฐช่วยพยุงไว้
.
2. ความเสี่ยงจากภาวะอุปทานหยุดชะงัก การบริโภคเหล็กขั้นปลายของไทยรวมถึงวัตถุดิบ เช่น เหล็กขั้นกลาง เศษเหล็ก จำเป็นต้องพึ่งพิงการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคเหล็กทรงแบนขั้นปลายซึ่งมีการนำเข้าในสัดส่วนที่สูงถึงราว 75% อย่างไรก็ดี EIC มองว่า ความเสี่ยงโดยรวมยังไม่มากนัก เนื่องจากประเทศคู่ค้าหลักแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ สามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 จนสามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ใกล้เคียงปกติในปัจจุบัน
.
3. ราคาเหล็กมีแนวโน้มลดลง โดยราคาเฉลี่ยปี 2563 ของเหล็กทรงแบนคาดมีแนวโน้มหดตัว 9% มาอยู่ที่ 18.0 บาท/กก. ขณะที่เหล็กทรงยาวคาดปรับตัวลดลง 7% มาอยู่ที่ 18.3 บาท/กก. ตามทิศทางราคาเหล็กจีนและประเทศแถบเอเชียตะวันออกที่ถูกกดดันจากความต้องการใช้เหล็กและราคาวัตถุดิบที่ลดลง
.
อย่างไรก็ตามราคาเหล็กในจีน มีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในจีน ซึ่งอาจส่งผลกับราคาเหล็กในไทย เนื่องจากไทยพึ่งพาการนำเข้าเหล็กจากจีนในปริมาณที่ค่อนข้างสูง