UNEP เตือนทั่วโลกควรตื่นตัวแก้โลกร้อน

โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP เตือนว่า โลกอาจหนีไม่พ้นภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเกิดจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หากไม่เร่งลดปริมาณการปล่อยมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
.
โดยในรายงานประเมินสถานการณ์ก๊าซเรือนกระจกประจำปีของ UNEP ระบุว่า ทั่วโลกควรลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงอย่างน้อย 7.6% ต่อปี จนถึงปี 2573 เพื่อควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม
.
เพราะทั่วโลกมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซตัวการสำคั

ญอื่นๆ ของภาวะเรือนกระจก เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5% ต่อปีตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนแตะระดับสถิติที่ 5.53 หมื่นล้านตันในปี 2561
.
ถึงแม้ 195 ประเทศทั่วโลกได้ลงนามในความตกลงปารีสเพื่อลดโลกร้อนเมื่อ 3 ปีก่อน แต่หลายประเทศก็ยังไม่ลงมือแก้ปัญหา หรือออกมาตรการรับมืออย่างจริงจัง
.
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ UN เตือนว่า ถึงแม้ชาติสมาชิกจะปฏิบัติตามความตกลงปารีส แต่ทั่วโลกก็ยังเสี่ยงเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นเฉลี่ย 3.2% ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต รวมถึงมนุษย์
.
แต่เชื่อว่า UN ระบุว่าเป้าหมายอุณหภูมิไม่เกิน 1.5 องศาฯ ยังเป็นสิ่งที่สามารถทำสำเร็จได้ ทว่าทั่วโลกต้องยกระดับความร่วมมือในการลดการปล่อยมลพิษในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากทุกประเทศยังพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
.
โดยนายอิงเกอร์ แอนเดอร์เซน ผู้อำนวยการ UNEP กล่าวว่า เรากำลังประสบความล้มเหลวในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หากไม่เร่งดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้เพื่อลดการปล่อยมลพิษอย่างมีนัยสำคัญ เราก็จะพลาดเป้าหมายอุณหภูมิ 1.5 องศาฯ