สุขภาพดีแบบยั่งยืนด้วย IF กับคุณบี สิริลักษณ์ ลีธวัชชัย

Share:

          ‘3 ปีกับชีวิตที่กินแล้วไปออกกำลังกาย แต่ก็ไม่เคยผอมหุ่นดีเหมือนที่อยากได้’ ทำให้คุณบี สิริลักษณ์ ลีธวัชชัย แอดมินจากกลุ่ม IF Thailand Community เริ่มคิดว่าสิ่งที่ทำมานั้นอาจจะไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง จนต้องเริ่มมองหาเส้นทางใหม่เมื่อเทรนเนอร์เริ่มแนะนำให้เธอรู้จักกับการจำกัดการกินเป็นเวลา หรือเรียกง่ายๆว่า การทำ IF แม้เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่คุ้นชิน แต่สำหรับเธออะไรที่ยังไม่ได้ลองก็ย่อมไม่รู้จึงไม่รีรอที่จะพิสูจน์

          การทำIF หรือ Intermittent Fasting เป็นวิธีการควบคุมแคลอรี และจำกัดเวลาในการทานอาหาร โดยมีหลากหลายวิธีในการปฏิบัติ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมก็คือจำกัดเวลาทานอาหาร 8 ชั่วโมง และอดอาหาร 16 ชั่วโมง เช่น เรารับประทานอาหารมื้อแรกตอน 12:00 น มื้อสุดท้ายก็ต้องไม่เกิน20:00 น หลังจาก20:00 น นับไปอีก 16 ชั่วโมงคือ 12:00 น ระหว่างนี้ก็ต้องไม่กินอะไรแล้ว

ที่มา : pixabay.com

          การทำ IF เป็นการฝึกให้ร่างกายใช้พลังงานจากไขมันในช่วงที่เราหยุดกินอาหาร ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินต่ำ มีการใช้สารคีโตนในร่างกายเป็นพลังงานแทนช่วงอดอาหาร ซึ่งมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าเกิดประโยชน์กับร่างกายหลายด้านนอกจากเรื่องการลดน้ำหนักคือ ลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงซึ่ง ปัจจุบันกำลังนิยมและถูกพูดถึงในกลุ่มคนรักสุขภาพอย่างกว้างขวาง

          คุณบีได้เริ่มลงมือทำ IF ควบคู่กับการออกกำลังกาย ทั้งคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง โดยจะออกกำลังกายในช่วงที่ท้องว่างเพื่อให้ดึงไขมันมาใช้ การออกกำลังกายใน 1 สัปดาห์ จะคาร์ดิโอ 4 วัน และ บอดี้เวท 3 วันต่อสัปดาห์ แต่จะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป

          นอกจากนี้การปรับอาหารควบคู่กับการทำ IF ก็เป็นสิ่งสำคัญ ในช่วงเวลา 6 ชั่วโมงที่รับประทานอาหาร จะจัดอาหารที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ 1 จานของแต่ละมื้อนั้นจะต้อมีกากใย ผัก ไฟเบอร์อยู่ในจาน 50% อีก 30% จะเป็นโปรตีน และ อีก 20% จะเป็นคาร์โบไฮเดรต และดื่มน้ำเปล่าให้ได้ประมาณ 2 ลิตรต่อวัน

          ระยะเวลาเพียง 3 เดือน คุณบีก็เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย จากน้ำหนัก 54 กิโลกรัม ก็ลดลงมาเหลือ 48 กิโลกรัม ร่างกายค่อยๆกระชับเล็กลงทีละน้อย แบบไม่ย้วยเพราะ ไม่ได้งดการรับประทานอาหารเลย แต่เลือกทานอาหารมากขึ้น คุณบียังกล่าวอีกว่า

“พอเอารูปร่างของตัวเองมาเปรียบเทียบกันในช่วงก่อนและหลังทำ IF นั้นเหมือนเป็นคนละคนกันเลย ส่วนในเรื่องของสุขภาพก็สดชื่นสดใสมากขึ้น ไม่รู้สึกเหนื่อย เพลีย ง่วงนอนระหว่างวันอีกเลย ที่สำคัญคือรูปแบบการทำ IF มันไม่ยากเลย เพียงแค่เพิ่มความตั้งใจเข้าไป”

          สำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจ รวมทั้งวิธีในการดูแลสุขภาพ และรูปร่างด้วยการทำ IF สามารถเข้าไปปรึกษาและพูดคุยกับคุณบีได้ในกลุ่ม IF Thailand Community จะทำให้คุณเข้าใจการทำ IF อย่างถูกวิธีและยั่งยืน สุดท้ายนี้คุณบีฝากถึงทุกคนที่จะเริ่มต้นดูแลตัวเอง

“อยากให้รักตัวเองมากๆ โดยมีเป้าหมายให้ตัวเองว่าเราทำสิ่งๆนี้ไปเพื่อตัวเรา เพื่อสุขภาพเรา และถ้าทุกคนมีความตั้งใจ ยังไงก็ทำได้แน่นอน”

 

 

สามารถติดตามเรื่องราวของคุณบี สิริลักษณ์ ลีธวัชชัย ได้ในรายการ Young @Heart Show
ตอน ตอนสุขภาพดีแบบยั่งยืนกับ IF

Young@Heart Show