เปลี่ยนวิกฤตแม่ป่วยเป็นโอกาสในการดูแลสุขภาพ คุณนุ่น ศรีสุดา สว่างศรี

เปลี่ยนวิกฤตแม่ป่วยเป็นโอกาสในการดูแลสุขภาพ

“แค่ทำงานก็เหนื่อยแล้ว จะมานั่งทรมานตัวเองทำไมกับการออกกำลังกาย”

          คุณเป็นหนึ่งคนที่คิดแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งก็ไม่ต่างจาก คุณนุ่น ศรีสุดา สว่างศรี วิศวกรสาว ดูแลเครื่องฝึกจำลองการบินที่ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง แค่ทำงานก็ไม่มีเวลาออกกำลังกายแล้ว จนกระทั่งเกิดจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ทำให้ความคิดในการดูแลสุขภาพของเธอเปลี่ยนไปนั่น เมื่อคุณแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง

          ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว คุณแม่ของคุณนุ่นตรวจพบมะเร็งเต้านมที่ข้างซ้าย จนคุณหมอต้อง ตัดเต้านมออกเพื่อรักษามะเร็ง ในระหว่างที่คุณแม่ต้องรักษาตัวนั้น คุณนุ่นคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้เห็นความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นตลอดการรักษา และเริ่มตั้งคำถามว่ามะเร็งเกิดจากอะไร ความเสี่ยงนี้มีโอกาสจะเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า

“เมื่อก่อนคิดว่ามะเร็งเป็นเรื่องไกลตัว นุ่นไม่คิดว่าตัวเองหรือคนในครอบครัวจะมีใครเป็นมะเร็ง แต่พอคุณแม่เป็นมะเร็งก็รู้เลยว่ามันใกล้ตัวและน่ากลัว เห็นคุณแม่ต้องเจ็บตัวทรมาน หวาดกลัวกับสิ่งที่เป็น ตัวนุ่นเองก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น”

          ‘มะเร็ง’ กลายเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ในชีวิตครอบครัวที่คุณนุ่นต้องเผชิญ แต่ด้วยความมีสติและหัวใจที่เข้มแข็ง เธอก้าวข้ามความทุกข์ด้วยการมองหาทางออกที่จะไม่ทำให้มะเร็งไม่กลับมาทำร้ายตัวเองคนที่รักอีกครั้ง การเลือกศึกษาหาข้อมูลและทำความรู้จักกับมะเร็งให้มากขึ้นจึงเป็นสิ่งแรก ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้คือพฤติกรรมการกินในทุกวันๆที่เคยมองข้ามไป ทำให้คุณนุ่นปรับเปลี่ยนเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ทำร้ายสุขภาพ ทั้งของทอด ของมัน ของหวาน อาหารแปรรูป มารับประทานอาหารปลอดสารพิษ แปรรูปน้อย เลือกไขมันดี และสารอาหารครบถ้วนในทุกมื้อ

“ตอนแรกเลยนุ่นก็จะดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างเดียวยังไม่ได้สนใจเรื่องออกกำลังกาย สุขภาพตอนนั้นนุ่นก็จะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเพราะต้องนั่งทำงานนานๆ บุคลิกก็ไม่ค่อยดีตื่นมาก็ไม่ค่อยสดใส”

          จากจุดนี้เองทำให้คุณนุ่นเริ่มมองหาการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย วิ่งคือวิธีการแรกที่เลือกเพราะทำได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ถูกจริตของเธอนัก กระทั่งวันหนึ่งมีคุณครูสอนโยคะในระแวกบ้านชวนให้ไปทดลองเรียนฟรี คุณนุ่นจึงเริ่มเปิดใจให้กับโยคะแล้วพบว่าเป็นการออกกำลังกายที่ชื่นชอบ และยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจของเธออีกด้วย

“กล้ามเนื้อที่เคยปวดก็หาย ไหล่ที่เคยติดจนถอดสปอร์ตบราไม่ได้ ตอนนี้สามารถยกแขนได้ปกติ แขนที่เคยมีไขมันย้วยๆก็กลายเป็นกล้ามเนื้อ ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น มีสมาธิมากขึ้นและการนอนหลับก็ดีขึ้น”

          เมื่อพบการออกกำลังกายที่ใช่ ข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลาก็เปลี่ยนไป คุณนุ่นจะแบ่งเวลาให้กับการเล่นโยคะเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง เพราะคุณนุ่นมองว่าเจอรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเองแล้วก็เหมือนพบกับคนที่ถูกใจ เราพร้อมจะจัดสรรเวลาให้เสมอ เช่นเดียวกับคุณนุ่นที่หลงรักโยคะ

          ปัจจุบันนี้ คุณนุ่นได้ดูแลสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวทั้งในเรื่องของโภชนาการอาหารและการออกกำลังกาย จนอาการมะเร็งเต้านมของคุณแม่ได้สงบลงแล้ว มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่สดใส เธอก็ได้ส่งต่อความรู้และเคล็ดลับต่างๆในการดูแลสุขภาพผ่านทางเพจ Fitgunyoung ให้กับผู้อื่นที่สนใจในการดูแลสุขภาพ

          ท้ายสุดสิ่งที่คุณนุ่นอยากจะบอกทุกคนคือ “ร่างกายคือต้นทุนที่สำคัญของชีวิตเพราะเราต้องใช้ร่างกายไปทำอะไรอีกหลายอย่าง วันนี้คุณมีเวลาที่จะดูแลสุขภาพเพราะคุณยังไม่ป่วยแต่ถ้าสมมุติว่าคุณป่วยแล้วคุณไม่มีสิทธิ์เลือกแล้ว หันมาดูแลสุขภาพกันเถอะค่ะ เพียงแค่เราแบ่งเวลาวันละ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงควบคู่กับการเลือกทานอาหารที่ดีเท่านั้นเอง”

สามารถติดตามรับชมเรื่องราวของคุณนุ่น ศรีสุดา สว่างศรี ได้ที่ Young @Heart Show
ตอน เมื่อแม่ป่วย เราต้องเปลี่ยน ตามนี้เลยค่ะ