YOUNG@HEART SHOW : รู้ทันโรค “ปวดบวม”
โรคปอดบวม หรือโรคปอดอักเสบ ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศจีน ตอนนี้ยังไม่สามารถหาชนิดของเชื้อไวรัสได้ค่ะ ซึ่งปอดบวมนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อโรคมากมาย เพียงแค่เรารับเชื้อเข้าไปในปอดเท่านั้น อาการรุนแรงแตกต่างกันไปตามเชื้อที่ได้รับ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคปอดบวมเบื้องต้นกันนะคะ
โรคปวดบวม
ปวดบวม หรือปอดอักเสบ เกิดจากการอักเสบของเซลล์ในปอด ทำให้การทำงานของถุงลมปอดผิดปกติ จนเกิดอาการปอดบวม ส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เป็นได้ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคเหล่านี้จะตรงเข้าทำลายปอด ทำให้ปอดสร้างสารคัดหลั่งออกมาอยู่ในถุงลม ออกมาเป็นเสมหะและมีอาการไอได้ในที่สุด
อาการของโรคปวดบวม
อาการเริ่มแรกของปอดบวมคือ มีไข้ ไอ หายใจติดขัด เหนื่อยหอบ และเหนื่อยง่าย
ปวดบวมต่างจากการเป็นหวัดทั่วไปอย่างไร?
ปกติแล้วอาการของหวัดธรรมดา จะมีอาการไอ เจ็บคอ และมีน้ำมูก ซึ่งเป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจแค่ส่วนบนเท่านั้น แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษา เชื้ออาจลุกลามลงไปยังปอดได้ เชื้อจะถูกส่งผ่านลงมาทางหลอดลม ทำให้เกิดเป็นโรคปอดบวมค่ะ
ปวดบวมอาการต่างจากหวัดอย่างไร?
สังเกตง่ายๆ เลยก็คือมีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ทั้งที่ไม่ได้ทำกิจกรรมหนัก และไอผิดปกติ ถ้าเริ่มมีอาการแล้วให้รีบพบแพทย์ค่ะ
การรักษาโรคปวดบวม
การรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดของการติดเชื้อ เริ่มจากวินิจฉัยโรคโดยการเอกซเรย์ปอด และนำเสมหะไปตรวจ เพื่อหาสาเหตุว่าติดเชื้ออะไร จากนั้นก็จะทำการรักษาโดยการให้ยาที่ตรงกับเชื้อโรคที่พบค่ะ
บุคคลเสี่ยงโรคปอดบวม ได้แก่
เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกันบางอย่าง และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังค่ะ
วิธีการป้องกันโรคปวดบวม
ควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าใกล้ผู้ป่วย และผู้ป่วยเองก็ควรใส่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อด้วยนะคะ
สำหรับผู้ที่ป่วยมีอาการไอ เจ็บคอ และเหนื่อยง่ายมาเป็นเวลานาน ทานยาแล้วไม่หายสักที แนะนำให้ไปตรวจอย่างละเอียด เพราะโรคปอดบวมจะไม่สามารถหายได้เอง ถ้าไม่ได้รับยาฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง ไม่เหมือนไข้หวัดที่จะหายได้เองนะคะ อย่าลืมดูแลสุขภาพ และใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยง จะได้ปลอดภัยจากเชื้อโรคร้ายค่ะ
ดูคลิปรายการย้อนหลังตอน โรคปวดบวม ได้ที่วิดีโอนี้เลยค่ะ