นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เปิดเผยว่า กรณีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นกู้ ความกังวลการผิดนัดชำระ และปัญหาเชิงระบบนั้น เบื้องต้นมีมุมมองว่า ตลาดหุ้นกู้ถือเป็นตลาดที่ไม่ได้เล็ก แต่มีหลายองค์ประกอบ ที่สำคัญคือ บริษัทที่ทำหุ้นกู้ได้ก็มีไม่มาก บริษัทที่ออกหุ้นกู้ได้จึงมีไม่มาก ไม่ใช่ทุกบริษัทจะออกได้ ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้ผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นสามารถนับเป็นรายตัวได้ โดยบริษัทที่ออกหุ้นกู้ ต้องแบ่งกลุ่มบริษัทที่มีฐานะที่ดีมาก อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เครดิตเรตติ้งระดับลงทุน กลุ่มนี้ไม่กังวลใจ ไปได้ ดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง ในภาพรวมหุ้นกู้จำนวนมากจึงไม่ได้มีปัญหา
ขณะที่กลุ่มบริษัทขนาดเล็ก ที่ออกหุ้นกู้ขายให้กับนักลงทุนเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้เสนอขายประชาชนเป็นการทั่วไป แต่ขายให้กับกลุ่มคนระดับกรรมการ โดยกลุ่มนี้เคยมีปัญหาเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ช่วงโควิด-19 การแก้ปัญหา คือ ให้คุยกับเจ้าหนี้ โดยเฉพาะกรรมการ แล้วระดมทุนเพื่อนำไปชำระหนี้ของหุ้นกู้เดิม (Roll Over) 2 ปี ให้ผ่านช่วงคับขันไปก่อน อยากให้ลองคิดง่ายๆ หากเศรษฐกิจไทยปลายปี 2567 มีข่าวดีเรื่องการลดดอกเบี้ย การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น เรามีหน้าที่พยุงทุกคนอีก 12 เดือน เพื่อให้ไปสู่โค้งที่ทุกอย่างดีขึ้น จากตอนนี้มีลมต้าน ทำให้เครื่องบินบินช้าลง แต่ต่อไปจะมีลมส่ง ทำให้เศรษฐกิจมีแรงส่งจากบรรยากาศต่างๆ ดีมากขึ้น ความกังวลใจจะทยอยหายไป ในอีก 12 เดือนต่อจากนี้ ป็นช่วงที่ต้องบริหารจัดการ บริษัทที่ดีไม่ต้องกังวลใจ บริษัทเล็กที่ออกหุ้นกู้ ขอให้เจ้าของเขา Roll Over ต่อไป
“สำหรับบริษัทขนาดกลาง รวมถึงบริษัทที่มีปัญหา อาทิ หุ้นสตาร์ค เห็นแล้วว่า ไม่ใช่ปัญหาเรื่องผลประกอบการ แต่เป็นปัญหาการบริหารจัดการ เจเคเอ็น ที่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง รวมถึงกรณีล่าสุด เป็นกลุ่มกลางๆ ที่ต้องบริหารจัดการ มองว่าเรื่องหุ้นกู้มีปัญหาที่ต้องจัดการ แต่ขนาดไม่ได้ใหญ่ถึงขนาดที่มีการพูดกัน เพราะน่าจะบริหารจัดการได้” นายกอบศักดิ์ กล่าว
สำหรับแนวคิดการตั้งกองทุนพยุงหุ้นกู้นั้น อยากให้มองว่า หากมีความจำเป็น ทำได้ เพราะเคยทำมาแล้ว และไม่ได้ใช้เงินมาก หากเกิดความกังวลใจมากขึ้นจนทางการคิดว่าเอาไม่อยู่ สามารถหยิบเอาทางเลือกนี้มาใช้ได้ เมื่อตัดสินใจเอาขึ้นมาใช้ สถานการณ์จะคลี่คลาย ขอให้ทุกคนคิดอย่างนี้ โดยคำถามจริงๆ ที่ต้องถามคือ มีหุ้นกู้อะไรบ้างที่ฐานะไม่ดีจริงๆ ตรงนี้คือหัวใจ เพราะเป็นปัญหาความเชื่อมั่น ปกติอยากขายของดี แต่ของดี ไม่ต้องขายก็ได้ สิ่งที่กลัวกันก็คือ ช่วงที่เกิดความแพนิก จะขายกันระเนระนาด การตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อทำให้ความเชื่อมั่นอยู่ตรงนั้น แล้วนักลงทุนมีจังหวะหายใจ แยกแยะระหว่างของดีกับของไม่ดี เพราะมองว่าของดียังมีอยู่เยอะ การจัดตั้งกองทุนขึ้นมาจะช่วยส่วนนี้ได้ ที่เหลืออยู่จะเป็นกลุ่มที่มีปัญหาอย่างแท้จริง อาทิ สตาร์ค ที่ถามว่าช่วยได้หรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ได้