Jan 29, 2024
50 ปี ‘ขายหัวเราะ’ บุกเส้นทางตำนานความหรรษาที่มีทุกบ้าน ผู้ฝ่าคลื่นดิจิทัลดิสรัปชันสู่ธุรกิจคอนเทนต์โซลูชันแบบครบวงจร
‘ขายหัวเราะ’ การ์ตูนลายเส้นไทยในตำนานที่วันนี้เดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่าครึ่งศตวรรษ โดยในปีที่ผ่านมา ‘ขายหัวเราะ’ ก็ได้ส่งสารพัดแคมเปญเข้าสู่ตลาดฉลองความสำเร็จ พร้อมขอบคุณแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนมาเป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้ BTimes ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับทายาทรุ่นที่ 3 ที่พาธุรกิจในตำนานฝ่าคลื่นพายุ กระทั่งประสบความสำเร็จตามติดอากงและคุณพ่อ
ย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้… ว่าก่อนจะมาเป็นหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ เดิมทีเคยเป็นสำนักพิมพ์ขนาดเล็กมาก่อน กระทั่งวันหนึ่งที่คุณวิธิต อุตสาหจิต หรือชื่อในวงการว่า ‘บก.วิติ้ด’ ได้มองเห็นโอกาสเล็กๆ ว่าเมืองไทยยังไม่เคยมีหนังสือการ์ตูนวาไรตี้แนวขำขันมาก่อน จึงตัดสินใจหอบความฝันเข้าไปเคาะประตูเสนอไอเดียนี้ให้กับคุณพ่อ หลังจากไอเดียผ่านการอนุมัติ บก.วิติ้ดก็เดินหน้าดึงนักวาดหลายหลากลายเส้นมารวมกันทำหนังสือการ์ตูนแก๊ก แหล่งรวมมุกที่ยกเรื่องราวรอบตัวที่กำลังเป็นกระแส หรือสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำวันมาสร้างเป็นมุกตลกแบบเข้าใจง่าย จนได้รับความนิยมทั่วบ้านทั่วเมือง ดันให้ขายหัวเราะขึ้นแท่นตำนานความหรรษาที่กาลเวลาก็ฆ่าไม่ตาย
เมื่อไม้ต่อธุรกิจถูกส่งให้กับทายาทสายตรง บก.วิติ้ด อย่างคุณนิว – พิมพ์พิชา อุตสาหจิต บิ๊กบอสวิธิตากรุ๊ปเจนใหม่ สาวไฟแรงที่หอบความมุ่งมั่งมาเต็มกระบุง เดินหน้าลุยพัฒนาธุรกิจให้อยู่รอดได้ในทุกสภาวะ โดยคุณนิวเล่าว่าในช่วงแรกที่ก้าวเข้ามา เพียงด่านแรกก็ทำเธอรู้สึกท้าทาย เพราะต้องเจอกับการดิสรัปชันครั้งใหญ่ของสื่อสิ่งพิมพ์ ที่หลายคนบอกว่านี่หละสิ่งพิมพ์ใกล้สูญพันธุ์ของแท้! แต่ไม่ใช่กับ ‘ขายหัวเราะ’ ที่เลือกจะเดินเกมโต้คลื่น ปรับรูปแบบธุรกิจให้กลายเป็น Creative Content Solution & Strategy ที่ครบเครื่อง ดำเนินงานภายใต้ระบบสตูดิโอ มัดรวมคาแรคเตอร์หลักให้กลายเป็น ‘จักรวาลขายหัวเราะ’ พร้อมนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ และกระจายคอนเทนต์หลายรูปแบบไปในหลายช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ตอบโจทย์อย่างครบวงจรให้กับทั้งพาร์ทเนอร์และผู้ชมที่ครอบคลุมทุกวงจรชีวิตของคนไทย ตอกย้ำจุดแข็งของการเป็นแบรนด์ที่มีสายใยความผูกพันอย่างเหนียวแน่นกับผู้บริโภค
เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่การพาธุรกิจให้อยู่รอด แต่คุณนิวยังตั้งใจที่จะผลักดันวงการการ์ตูนไทยให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ตลอดจนเติบโตไปสู่เวทีระดับโลก ควบคู่ไปกับการสร้าง Creative Economy ด้านอารมณ์ให้กับประเทศไทย
