นายเผ่าภูมิ โรจนะสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน digital เปิดเผยวานนี้ (31 ม.ค. 67) ว่าขณะนี้กำลังรอความคิดเห็นของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้เป็นการรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน จึงต้องรอข้อเสนอแนะนี้อย่างเป็นทางการ ไม่ใช่เฉพาะร่าง ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าร่างดังกล่าวเป็นเอกสารตัวจริงหรือไม่ และขณะนี้เอกสารอย่างเป็นทางการยังมาไม่ถึงมือรัฐบาล เท่าที่เข้าใจ ทราบว่ายังอยู่ใน ป.ป.ช.
ขณะเดียวกันก็ต้องรอฟังความคิดเห็นจากผู้ตรวจการแผ่นดินที่เตรียมสรุปความคิดเห็นมาด้วย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ในการรับฟัง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อผูกมัดว่าจะต้องปฏิบัติตามหรือไม่ แต่สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ก็รับฟัง และนำมาปรับ สิ่งไหนที่ดีก็ดำเนินการต่อ โดยหากได้รับข้อเสนอทั้งหมดแล้ว จะมีการสังเคราะห์ข้อมูลข้อเสนอแนะ ก่อนที่จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่อีกครั้ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่าต้องมีการขยับไทม์ไลน์โครงการอาจจะต้องเลื่อนไป แต่จะพยายามทำให้สั้นที่สุด เพราะเข้าใจดีว่าเจตนารมณ์ของโครงการนี้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความจำเป็น และระยะเวลาต้องเร่งด่วน โดยจะต้องมีเม็ดเงินลงไปในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าขาดช่วง เนื่องจากตัวงบประมาณที่ล่าช้า จึงจำเป็นจะต้องมีเม็ดเงินลงไปทดแทนในส่วนที่เป็นฟันหลอตอนนี้
ส่วนการขยับไทม์ไลน์โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะไปที่ไตรมาส 3 หรือ 4 หรือไม่นั้น นายเผ่าภูมิย้ำว่า เรื่องระยะเวลาจะเร่งรัดที่สุด เพราะทุกคนมีความกังวลใจ จำเป็นที่จะต้องมีเม็ดเงินใหม่ลงไป ดังนั้น ทุกคนจะทำงานด้วยความรัดกุม และรวดเร็ว ต้องทำงานแบบเทรดออฟ (ได้อย่างเสียอย่าง) เพราะหากรวดเร็วแต่ไม่รัดกุม ก็เกิดความเสียหายได้ หรือหากรัฐกลมเกินไป และทิ้งเวลาไปเป็นปีๆ ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ได้
และขอย้ำว่าไทม์ไลน์จะไม่ขยับไปมาก แต่จะใช้เวลาสักพักแต่ไม่มาก เพราะตอนนี้ แค่รอตัวหนังสืออย่างเป็นทางการจาก ป.ป.ช. เท่านั้น เมื่อได้คำแนะนำจาก ป.ป.ช. รัฐบาลก็จะมีคำตอบให้ ป.ป.ช. ด้วย ซึ่งยืนยันว่ายังคงหลักเกณฑ์เดิมของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่หากมีข้อเสนอแนะให้ปรับเกณฑ์ ก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น แต่ทุกความคิดเห็นจะถูกตัดสินใจโดยคณะกรรมการชุดใหญ่ว่า จะพิจารณาอย่างไร
แต่ปัจจุบันนี้ ยังไม่มีข้อเสนอการปรับเกณฑ์ ยังคงใช้เกณฑ์เดิมที่เสนอไป หลังได้ปรับเกณฑ์จากที่ได้หาเสียงไว้แล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำเรียกร้องไม่ใช่ความตั้งใจแรกของพรรคที่หาเสียงไว้ที่ตั้งใจจะให้ทุกคน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อมีข้อสังเกตมาก็รับฟัง ยืนยันว่าไม่มีการปรับเรื่องวงเงินกู้ด้วย
