นางเจนเน็ท เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐโดยเฉพาะพื้นที่ว่างเปล่าที่มีเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากจากภาคเอกชนลดค่าใช้จ่ายต่อเนื่องนั้น จะส่งผลต่อสถานะการเงินของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ฝนขณะที่ภาพรวมนั้น สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐจะไม่เป็นสาเหตุให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบการเงินของสหรัฐอเมริกา
สถานะการเงินของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีต่อตลาดสินเชื่อให้กับอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับสถานะการเงินของธนาคารขนาดเล็กที่เกิดความตึงตัวอย่างชัดเจนกับอัตราการเช่าพื้นที่สำนักงานที่ตกต่ำลงจนสต็อกสำนักงานให้เช่ามีว่างเป็นจำนวนมาก อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อยู่ในระดับสูงรอบ 23 ปี และมูลค่าการประเมินทรัพย์สินที่ลดต่ำลง ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กจะมีผลประกอบการที่ขาดทุนเกิดขึ้นท่ามกลางสถานะการเงินที่ตึงเครียดด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวนั้น มั่นใจว่าสามารถจัดการได้ เนื่องจากองค์กรกำกับดูแลสถาบันการเงิน และสภาการกำกับดูแลเสถียรภาพการเงิน หรือ COSF ในสหรัฐอเมริกาได้ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้กู้ยืมสินเชื่อ ในขณะเดียวกัน สภาการกำกับดูแลเสถียรภาพการเงิน หรือ COSF ในสหรัฐอเมริกา ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินที่ไม่อยู่ในสถานะธนาคารพาณิชย์ หรือนอนแบงก์ด้วย
ทั้งนี้ ในสัปดาห์ผ่านไป ธนาคารนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ แบงก์คอร์ป ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ระดับภูิภาคในสหรัฐอเมริกา เผชิญกับผลประกอบการขาดทุนที่เหนือคาดหมาย และรายงานมูลค่าหนี้เสียที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่ปล่อยให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญความตกต่ำ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของธนาคารนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ แบงก์คอร์ป ร่วงดำดิ่งมากถึง -60% ในช่วง 8 วันผ่านมา ที่สำคัญ เมื่อวานนี้ มูดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือการลงทุนชื่อดังระดับโลก ปรับลดอันดับเรตติ้งของธนาคารดังกล่าวมาอยู่ในระดับ ไม่ควรลงทุน หรือระดับขยะ (Junk) ซึ่งลดลงจากระดับเดิมถึง 2 ขั้น