นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทบทวนเรื่องการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท มาหารือแนวทางการทบทวนในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยกรมศุลกากร กรมสรรพากร สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งการหารือครั้งนี้จะพิจารณาถึงผลกระทบในภาพรวมทุกมิติ ทั้งการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการใช้ช่องทางดังกล่าวในการหลบเลี่ยงภาษี
โดยมี 2 แนวทางในการพิจารณา คือ
1. การปรับลดมูลค่าสินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าจาก 1,500 บาทลงมา
และ 2. การแก้ไขประมวลรัษฎากรในการยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สินค้านำเข้าตามกฎหมายศุลกากร เพื่อให้กรมสรรพากรดำเนินการจัดเก็บแวตนำเข้าในทุกรายการสินค้า และให้กรมสรรพากรจัดเก็บภาษีผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่ทั้งสองแนวทางยังไม่ได้ข้อสรุป
ซึ่งในส่วนของการปรับลดมูลค่าสินค้าที่ได้รับการยกเว้นนั้น จะต้องสอบถามต่อกรมศุลกากรว่ามูลค่าที่ได้รับการยกเว้นนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร เหตุใดจึงใช้มูลค่านี้ หรือเป็นไปตามข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศหรือไม่ หากจะมีการแก้ไขจะกระทบต่อการดำเนินงานและการจัดเก็บรายได้ของกรมหรือไม่อย่างไร หรือถ้าเราไม่ปรับลดมูลค่าในการยกเว้น แล้วจะสามารถใช้เทคโนโลยีเข้าไปตรวจปล่อยสินค้าในทุกรายการ เพื่อป้องกันสินค้าที่นำเข้ามาโดยใช้ช่องทางดังกล่าวในการยกเว้นอากร หรือป้องกันสินค้าต้องห้ามในการนำเข้า เป็นต้น
ในส่วนของการยกเว้นจัดเก็บแวตสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทนั้น มองว่าไม่ควรที่จะมีการยกเว้น เพราะเป็นข้อได้เปรียบเสียเปรียบต่อผู้ประกอบการในประเทศ หากจะไม่ยกเว้นจะต้องดำเนินการอย่างไร และจะจัดเก็บอย่างไร เรื่องนี้ก็จะหารือกับทางกรมสรรพากรด้วย
ด้านนางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า ปัจจุบันกรมฯ ได้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) สำหรับสินค้านำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากรนำเข้าของกรมศุลกากร ซึ่งกรมศุลกากรกำหนดมูลค่าสินค้านำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากรที่ 1,500 บาท ดังนั้นสินค้านำเข้าใดที่มีมูลค่าตามที่กรมศุลกากรกำหนดในการยกเว้นการจัดเก็บภาษีแวตก็จะได้รับการยกเว้นเช่นกัน
ด้านนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากรกล่าวว่าการพิจารณาในประเด็นดังกล่าว ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการหารือกันมาระยะหนึ่งแล้ว ในวันนี้จะพิจารณาร่วมกันอีกครั้งว่าจะเลือกแนวทางใดที่มีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งนี้การกำหนดอัตราการยกเว้นอากรสินค้านำเข้านั้น มีที่มาที่ไป ทั้งในเรื่องของการอำนวยสะดวกทางการค้าตามข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ และรวมถึงความคุ้มค่าในการจัดเก็บรายได้ อย่างไรก็ตาม กรมฯ พร้อมที่จะปฎิบัติตามนโยบายหากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดเก็บ