นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึง กรณีตำรวจไซเบอร์บุกจับหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่งขายข้อมูลลูกค้ากลุ่มเครดิตดีให้นายหน้าสินเชื่อ นายหน้าประกัน และบางรายชื่อตกไปอยู่ในมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการทยอยนำรายชื่อลูกค้าประมาณครั้งละ 3,000–5,000 รายชื่อ ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเครดิตดีไปจำหน่ายต่อในราคารายชื่อละ 1 บาท ทำให้มีรายได้เพิ่มเติมเดือนละหลายหมื่นบาท ซึ่งกระทำการในลักษณะเช่นนี้มากว่า 1-2 ปีแล้ว
ประธานสมาคมธนาคารไทยยอมรับว่ากรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นภาคธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดขึ้นจากบุคคลภายในซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร แม้ว่าอาชญากรลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกวงการ แต่เมื่อเกิดขึ้นในระบบธนาคารย่อมมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ หลังจากนี้ต้องตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้นว่าต้นเหตุที่แท้จริงคืออะไร ต้องให้คำตอบและอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อสังคมให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่กระทบต่อความเชื่อมั่น
ทั้งนี้ ภัยทางไซเบอร์ถือเป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจ ซึ่งสมาคมธนาคาร และธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ความสำคัญในเรื่องของการคุ้มครองข้อมูลอย่างมาก รวมถึงมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ที่ควบคุมเรื่องนี้อยู่ การที่ข้อมูลของลูกค้ารั่วไหลไม่ว่าจะเกิดจากบุคคลภายนอกพยายามเจาะข้อมูล หรือหลุดจากคนภายในเอง เป็นเรื่องที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญ ยกระดับการกำกับดูแลให้รัดกุม ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดก็ต้องมีการตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป