นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ม.ค. 67 พบว่า อยู่ที่ระดับ 90.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 88.8 ในเดือนธ.ค.66 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ สะท้อนจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายสินค้าที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะสินค้าอุปโภค-บริโภค เพื่อรองรับการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน
อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากมาตรการ Easy E-receipt ในช่วงวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 67 ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว วีซ่าฟรี (Visa Free) ส่งผลให้ในช่วงเดือน ม.ค. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยกว่า 2.743 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27.8% ขณะที่ภาคการส่งออก ฟื้นตัวดีขึ้นตามอุปสงค์ในตลาดโลก และคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ตะวันออกกลาง และอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบ จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินกิจการเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ SMEs ขณะที่สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้นจากความกังวลปัญหาหนี้ครัวเรือน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก ยังเผชิญกับปัญหาการโจมตีเรือขนส่งสินค้า บริเวณคลองสุเอซ และทะเลแดง ขณะที่การขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและยุโรป ต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น เนื่องจากต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือผ่านแหลมกู๊ดโฮป
ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 98.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จาก 96.2 ในเดือน ธ.ค. 66 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงมาตรการแก้หนี้นอกระบบ และการพักชำระหนี้ให้ SMEs ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ผลกระทบต่อการส่งออกของไทยจากปัญหาความไม่สงบในทะเลแดง ความผันผวนของราคาพลังงานโลก และภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้เสนอภาครัฐเร่งหาสายเรือ เพื่อเพิ่มจำนวนเรือขนส่งสินค้า และตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาในประเทศ รวมทั้งอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนไทย-เมียนมา และดูแลนักลงทุนไทยที่เข้าไปทำธุรกิจ และเร่งพิจารณาอนุมัติงบประมาณปี 67 และเตรียมความพร้อมในการใช้จ่ายงบให้ได้ตามเป้าหมาย