ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้อยู่ที่ 1,359.26 จุด ปรับลง 3.33 จุด หรือ -0.24% มูลค่าการซื้อขาย 39,683.43 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน ระหว่างวันดัชนีลงไประดับ 1,350 จุด ต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ตามทิศทางเดียวกับหุ้นในภูมิภาค การขายหุ้นขนาดใหญ่รวมถึงการขายออกของนักลงทุนต่างชาติ
ส่วนตลาด SET 50 ปิด 829.39จุด ปรับ -2.19 จุด หรือ -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 22,615.93 ล้านบาท
และตลาด mai ปิดที่ 408.41 จุด ปรับ -3.82 จุด หรือ -0.93% มูลค่าซื้อขาย 1,902.39 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่
1. BDMS ปิดที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
2. DELTA ปิดที่ 65.50 บาท ลดลง -1.50 บาท
3. CPALL ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ว่ามีโอกาสฟื้นตัวตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยทางสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์และเรียกร้องให้อิสราเอลดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา ด้านเฟดส่งสัญญาณว่า จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นช่วยให้หุ้นกลุ่มพลังงาน อยู่ในกรอบดัชนี 1,350-1,400 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และบริการ การลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าแกว่งตัวผันผวนอิงแดนลบสอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชีย โดย SET ไหลลงหลุด Low เดิม 1,352 จุดไปที่ 1,350 จุด ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยหลังเงินเฟ้อของไทยออกมาต่ำกว่าคาด
กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลข CPI ทั่วไปเดือนก.พ.67 ติดลบ 0.77% y-y ใกล้เคียงที่ตลาดคาดไว้ -0.8% และชะลอลงจาก -1.1% ในเดือน ม.ค. 67 ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.43% y-y ต่ำกว่าคาด และเดือน ม.ค. +0.52% y-y ทิศทางยังคงต่ำต่อเนื่อง จึงมองเพิ่มโอกาสที่ดอกเบี้ยนโยบายไทยมี Downside Risk จากระดับปัจจุบันที่ 2.5%