นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (วายแอลจี) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำ ถือว่าราคายังอยู่ในช่วงโมเมนตัมที่ดี เนื่องจากปรับตัวขึ้นทำออลไทม์ไฮ (All Time High) อย่างต่อเนื่องที่ระดับ 2,195 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ แม้เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาแล้ว โดยในโซนแนวต้านจิตวิทยา อยู่ที่ระดับ 2,200 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ประกอบกับการจ้างงานสหรัฐ (Non-Farm) รายงานออกมาสูงเกินคาดการณ์ไว้ และอัตราว่างงานที่สูงเช่นกัน ประกอบกับภาพเทคนิคยังสามารถดันราคาทองคำขึ้นต่อได้ โดยเน้นย้ำว่าจะต้องจับตาความผันผวนของราคาอย่างใกล้ชิด เพราะในสัปดาห์นี้มีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ทั้ง CPI, PPI ด้วย
สำหรับปริมาณการซื้อทองคำในช่วงนี้ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเช่นกัน นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงวันที่ 11 มีนาคม 2567 ราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 2,900 บาทต่อบาททองคำ ทองคำแท่งทำจุดสูงสุดที่ระดับ 36,600 บาทต่อบาททองคำ และราคาทองคำรูปพรรณปรับขึ้นไปแตะระดับ 37,000 บาทแล้ว ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาทั้งทองคำรูปพรรณ และทองคำแท่ง โดยโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นไปแตะระดับ 38,000 บาทต่อบาททองคำยังคงมีอยู่ แต่อาจต้องระวังแรงกระแทกตัวปรับลดลงมาด้วย เพราะราคาปรับพุ่งขึ้นต่อเนื่องมากแล้ว
ทั้งนี้ ราคาทองคำ ณ วันที่ 11 มีนาคม 2567 มีการปรับเปลี่ยน 4 ครั้ง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่ง รับซื้อ อยู่ที่ 36,450 บาท ขายออก 36,550 บาท ทองคำรูปพรรณ รับซื้อ 35,792.76 บาท ขายออก 37,050 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) 2,181 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยน 35.39 บาทต่อเหรียญสหรัฐ