นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามที่ ก.ล.ต.สหรัฐได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุนรวม Spot Bitcoin ETF และอนุญาตให้เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้นั้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาสำนักงาน ก.ล.ต.เองก็ได้นำหลักเกณฑ์เดิมมาพิจารณา และล่าสุดเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ก.ล.ต. ก็ได้มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์ใหม่
ก.ล.ต.อนุญาตให้ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) สามารถเข้าลงทุนกองทุน Spot Bitcoin ETF ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ได้ เพิ่มเติมจากเดิมที่เปิดทางให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สามารถให้บริการหรือพาผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) และผู้ลงทุนสถาบัน (Institutional Investor) ไปลงทุน Bitcoin ETF ได้โดยตรง
เนื่องจาก ก.ล.ต. มองว่าเป็นผู้ลงทุนที่มีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้สูง ซึ่งถือเป็นการเปิดเกณฑ์ให้สอดคล้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ให้ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ไปลงทุนได้แบบไม่มีข้อจำกัด
“การอนุมัติเกณฑ์ต่าง ๆ มีที่มาที่ไปอยู่ ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของการเพิ่ม Level of Service แต่ไม่ได้ทำให้คำว่าพลาดการลงทุนช่วงที่ราคาบิตคอยน์ร้อนแรง เพราะนักลงทุนไทยลงทุนในคริปโตผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการกำกับของไทยอยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีผู้ลงทุนเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 3.5 ล้านบัญชี” เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าว
ทั้งนี้ คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) แพลตฟอร์มรายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า ค่าเงินสกุลบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี มีราคาเคลื่อนไหวสูงขึ้นต่อเนื่องจากช่วงเปิดตลาดในยุโรปในวันนี้ 11 มีนาคม 2024 พบว่า เมื่อเวลา 13.45 น. (เวลาอังกฤษ) ซึ่งตรงกับเวลา 20.45 น.(เวลาไทย) ขึ้นสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 72,211.51 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,599,615 บาทต่อบิทคอยน์ เพิ่มขึ้น +2,841.68 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า +98,700 บาท หรือกว่า +3.43% ทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ส่งผลให้เงินบิทคอยน์ตั้งแต่ต้นปีมาถึงวันนี้ พุ่งกระฉูดขึ้นถึงกว่า +62%