นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าวแผนประจำปี 2567 ของบริษัท โดยได้วางแผนลงทุนระยะยาวในการช่วง 5 ปีตั้งแต่ปี 2567-2571 ใช้งบลงทุนสิ้น 121,000 ล้านบาท ในการเปิดโครงการใหม่ การปรับรีโนเวท รวมถึงโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่
สำหรับแผนในปี 2567 นี้ จะมีโครงการที่เปิดให้บริการใหม่ทั้งสิ้น 13 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ และเซ็นทรัล นครปฐม, โครงการที่อยู่อาศัย 10 โครงการ และโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยอง จับมือกับ International Chain ระดับโลก ทำให้ในภายในปี 2567 จะมีโครงการศูนย์การค้า 42 โครงการ, คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ, ที่อยู่อาศัย 43 โครงการ, โรงแรม 10 โครงการ, และออฟฟิศ 10 โครงการ ซึ่งโครงการใหม่ในปีนี้ยังเป็นไปตามแผนทั้ง เซ็นทรัล นครสวรรค์ที่เปิดไปแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สร้างผลตอบรับที่ดีมาก มียอดทราฟฟิกไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นคน รวมถึงร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดให้คึกคัก
โดยแผนการเปิด “เซ็นทรัล นครปฐม” มูลค่า 8,200 ล้านบาท มีกำหนดในวันที่ 30 มี.ค.67 นี้ ส่วนในปี 2568 เตรียมเปิด “เซ็นทรัล กระบี่” มูลค่า 4,500 ล้านบาท เป็นหมุดหมายใหม่ให้เมืองท่องเที่ยวระดับโลก ร่วมยกระดับไลฟ์สไตล์ รีเทล รวมทั้งมีโครงการที่จะปรับโฉมใหม่ (Asset Enhancement) ใน 5 ปีลงทุน 23,000 ล้านบาท ลงทุนเทียบชั้นศูนย์การค้าใหม่ โดยในปีนี้เตรียมปรับ 6 โครงการ ได้แก่ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, บางนา, แจ้งวัฒนะ, รัตนาธิเบศร์, พัทยา และมารีน่า รองรับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง และกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
นอกจากนี้มีโครงการรีเทลขนาดใหญ่จำนวน 5 โครงการที่วางไว้ให้เป็น มิกซ์ยูส จะดำเนินการต่อเนื่องในช่วง 5 ปีนับจากนี้ มีพื้นที่รวมกันกว่า 2.2 ล้าน ตร.ม. เริ่มโครงการแรก “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่จะทยอยเปิด ตั้งแต่โรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่เดือน ก.ย. ปีนี้ ส่วนอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า Central Park เปิดกลางปี 2568 เพื่อวางเป้าหมายให้เป็น The World’s New Magnitude โมเดลเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมในปัจจุบัน บริษัทมีโครงการมิกซ์ยูส 20 โครงการ โดยในปีที่ผ่านมาได้ขยายเพิ่มที่อุบลราชธานี, อยุธยา, ชลบุรี, ศรีราชา, หาดใหญ่ ส่วนในระยะต่อไป เตรียมขยายทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ อาทิ นครสวรรค์, นครปฐม, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี พร้อมเตรียมเปิดในปี 2568 ที่จังหวัดกระบี่ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ปี 2568 มีโครงการมิกซ์ยูสเป็น 25 โครงการ
บริษัทประเมินว่าภาพรวมกำลังซื้อในช่วงต้นปีกลับมาแล้ว และดีกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดแล้ว เห็นได้จากยอดทราฟฟิกที่กลับมาแล้วจากนักท่องเที่ยวและต่างชาติ เพิ่มขึ้นประมาณ 15-20%
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะเจรจาขอเช่าพื้นที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว กับหน่วยงานภาครัฐ ออกไปอีก โดยตามสัญญาเช่าพื้นที่จะสิ้นสุดในอีก 5 ปีนับจากนี้ แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่การเจรจาเช่าพื้นที่จะดำเนินการก่อนสัญญาครบกำหนดประมาณสองปี
ส่วนกรณีโครงการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่จาก การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยได้ทำสัญญาเป็นครั้งที่สอง จ่ายผลตอบแทนรวมตลอดอายุสัญญา 20 ปี (19 ธ.ค. 2551-18 ธ.ค. 2571) เป็นวงเงินรวมประมาณ 2.12 หมื่นล้านบาท
