ส่งท้ายวันศุกร์กดราคาน้ำมันดิบลงแคบๆ เหนือ 85 บาร์เรล หยุดราคาขึ้น 2 วันติดกันเกือบ 5%

ส่งท้ายวันศุกร์กดราคา น้ำมันดิบ ลงแคบๆ เหนือ 85 บาร์เรล หยุดราคาขึ้น 2 วันติดกันเกือบ 5%

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 81.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.21% ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +3.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.70% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.11% ส่งผลหยุดราคาน้ำมันดิบปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +3.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +4.30% หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดสูงสุดในรอบ 4 เดือน 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่ 6 พฤษจิกายน 2023

ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาด เป็นราคารายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้น +3.5%

สาเหตุจากโรงกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปในสหรัฐซ่อมบำรุงตามระยะเวลาเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าปริมาณน้ำมันจะกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐรายสัปดาห์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 110,000 บาร์เรล ทำให้ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1.3 ล้านบาร์เรล นับเป็นการปรับเพิ่มตัวเลจครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าในปี 2023 ที่วันละ 2.3 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างยูเครนกับรัสเซียปะทุขึ้นครั้งใหม่ นับเป็นวันที่ 2 ที่ยูเครนใช้โดรนติดขีปนาวุธโจมตีทำลายโรงกลั่นน้ำมันรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรัสเซีย สร้างความเสียหายอย่างมากต่อโรงกลั่นดังกล่าว

ด้านกลุ่มโอเปกพลัสมีมติขยายมาตรการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของกลุ่มโอเปกพลัสออกไปถึงสิ้นไตรมาสที่ 2 ปีนี้ โดยมาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปีนี้ หลังจากเห็นตรงกันและมีมติร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2023 เป็นต้นมา ทำให้กลุ่มโอเปกพลัสลดกำลังการผลิตลงมากถึงวันละ 2.2 ล้านบาร์เรล

เมื่อสิ้นสุดปี 2023 พบว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลงกว่า -10% ทำสถิติราคาน้ำมันดิบปิดรายปีลดลงในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สำหรับในปี 2022 นั้น ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิด +7% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิด +10%

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles