นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.99 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.98 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.85-36.15 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทผันผวนในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 35.94-36.00 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้านสำคัญ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ที่ยังพอได้ปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทยังคงไม่สามารถทะลุผ่านโซนแนวต้านได้ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้นผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลักที่จะเริ่มต้นด้วยการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันอังคารนี้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอย่างฝั่งผู้ส่งออกก็ยังคงทยอยขายเงินดอลลาร์อยู่ ทำให้การอ่อนค่าของเงินบาทนั้นชะลอลงบ้าง
สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่าเงินบาทเสี่ยงที่จะผันผวนสูง โดยเฉพาะในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุม BOJ เพราะหาก BOJ ส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น หรือมีการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดได้จริง ก็อาจหนุนให้ เงินเยนพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากโซนเหนือระดับ 149 เยนต่อดอลลาร์ สู่โซน 148 เยนต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก ซึ่งในภาพดังกล่าวก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท ทำให้เงินบาททยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ในทางกลับกัน หาก BOJ ย้ำจุดยืนใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายไปก่อนอ่อน จนกว่าจะมั่นใจในทิศทางอัตราเงินเฟ้อ ก็จะยิ่งกดดันให้เงินเยนผันผวนอ่อนค่ากลับไปเหนือระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งในกรณีดังกล่าว เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าทะลุ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ไปทดสอบโซนแนวต้านถัดไปแถว 36.20 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังล่าสุดนักลงทุนต่างชาติกลับมาเทขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนบอนด์ไทย ทั้งบอนด์ระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลง