ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้อยู่ที่ 1,381.04 จุด ลดลง 6.58 จุด หรือ -0.47% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 39,300.70 ล้านบาท โดยทำจุดต่ำสุด 1,379.43 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,389.79 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่
1. KTB มูลค่าการซื้อขาย 3,696.83 ล้านบาท ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,242.49 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
3. BKGI มูลค่าการซื้อขาย 1,500.07 ล้านบาท ปิดที่ 4.16 บาท ลดลง 1.29 บาท
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์เป็นไปตามตลาดหุ้นเอเชีย รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินทั้งภูมิภาคเอเชียอ่อนค่า รวมถึงเงินบาท โดยกลับมาแตะระดับ 36.5 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่ามากสุดในรอบ 5 เดือน กระทบเงินทุนต่างชาติไหลออก หลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) เซอร์ไพร์สลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยด้วย
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้า ติดตามการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ของวุฒิสภา หากผ่านไปได้จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/67 ขณะเดียวกัน จับตาตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.ของไทยในวันที่ 26 มี.ค.67 ซึ่งตลาดคาดขยายตัว 3.9% รวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) และดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์ที่ 29 มี.ค. พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,400-1,410 จุด