ไปรษณีย์ไทยไม่ขาดทุนแล้ว พลิกมีกำไรเกือบ 80 ล้าน หลังปั้มรายได้พุ่งเหนือ 20,000 ล้าน

ไปรษณีย์ไทย ไม่ขาดทุนแล้ว พลิกมี กำไร เกือบ 80 ล้าน หลังปั้มรายได้พุ่งเหนือ 20,000 ล้าน

กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ เปิดเผยว่า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มีผลการดำเนินงานปี 2566 พบว่าผลประกอบการพลิกกลับมามีกำไร 78.54 ล้านบาท รายได้รวม 20,934.47 ล้านบาท หรือเติบโตสูงขึ้น 7.40% สำหรับภาพรวมของตลาดขนส่งในปี 2566 นั้น มีการขยายตัวตามของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับการให้บริการกับตลาดต่างๆ รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไปรษณีย์ไทยมีการเติบโต ทั้งด้านรายได้และปริมาณชิ้นงานขนส่งที่เพิ่มขึ้น ในปี 2566 ที่ผ่านมา

รายได้หลักมาจากธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีสัดส่วนรายได้สูงสุด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ 19.35% ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากการให้บริการที่ครอบคลุมผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม จุดให้บริการที่สะดวกง่ายต่อการเข้าถึง พัฒนาประสบการณ์ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นคุณภาพตลอดกระบวนการให้บริการ

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเห็นโอกาสจากการให้บริการค้าปลีกและการเงิน จึงพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยในกลุ่มบริการนี้มีรายได้เติบโตขึ้น 34.26% ถือเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญและพร้อมต่อยอดโซลูชันการให้บริการที่มากขึ้นในปีนี้

ในปี 2566 ไปรษณีย์ไทยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มงานต่างๆ ได้แก่ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 45.56% กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 33.85% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.43% กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 4.90% กลุ่มธุรกิจอื่นๆ 0.96% และรายได้อื่นๆ 1.30%

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้า Trusted Sustainable ASEAN Brand ใน 3 ปี สร้างแบรนด์อันเป็นที่รักในใจคนไทย สะท้อนจากผลสำรวจความภักดี ความผูกพัน และความไว้วางใจในแบรนด์ไปรษณีย์ไทยในปี 2566 สูงถึง 96.3% เตรียมยกระดับเครือข่ายที่ทำการและ บุรุษไปรษณีย์ พร้อมด้วยความแตกต่าง ทั้งด้านคุณภาพและการสร้างประสบการณ์ในการใช้บริการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายรายได้รวมปี 2567 ไว้ที่ 22,802 ล้านบาท คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท จากกลุ่มบริการหลัก ได้แก่ บริการไปรษณีย์ บริการขนส่งและโลจิสติกส์ บริการค้าปลีก บริการการเงินเสริมทัพด้วยทรัพยากรที่มีศักยภาพ อาทิ เครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมกว่า 50,000 แห่ง ทีมพี่ไปรฯ Postman Cloud การเปิดศูนย์ไปรษณีย์ เพิ่มโมเดลการแสวงหารายได้ใหม่ที่ยั่งยืน เช่น การให้บริการด้านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์แบบ ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ Prompt Post การพัฒนาสินค้า House Brand ภายใต้สินค้าตราไปร

ทั้งนี้ ในปี 2567 ไปรษณีย์ไทยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ 46.12% กลุ่มบริการไปรษณียภัณฑ์ 32.48% กลุ่มบริการระหว่างประเทศ 13.98% กลุ่มบริการค้าปลีกและการเงิน 5.10% กลุ่มธุรกิจอื่นๆ 0.90% และรายได้อื่นๆ 1.42% ดร.ดนันท์ กล่าวปิดท้าย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles