วานนี้ (3 เมษายน) นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมกรมการท่องเที่ยว ได้มอบหมายให้ นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ในฐานะนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง และเจ้าหน้าที่กองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ร่วมกับคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการร่วมแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE) หรือ ศปต. ลงพื้นที่เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการตรวจสอบและติดตามการดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวของผู้ประกอบการ และเฝ้าระวังการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE) ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เน้นย้ำให้กรมการท่องเที่ยว และกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจตรา กวดขัน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็น tourism hub และเป็น destination ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ปี 2568 ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ ตรวจพบผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจำนวน 2 บริษัท ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากกรมการท่องเที่ยว แต่ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนแปลงจำนวนกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทและสัดส่วนผู้ถือหุ้นทำให้ขาดคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด กรมการท่องเที่ยวจึงสั่งการให้นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคกลางออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวทั้ง 2 รายโดยทันที
สำหรับ 2 บริษัทดังกล่าว ประกอบด้วย บริษัท ฉางหลง ทราเวล จำกัด ใบอนุญาตเลขที่ 14/03881 จดทะเบียน นำเที่ยวจากต่างประเทศ และบริษัท เซิน โจว สิง ทัวร์ จำกัด ใบอนุญาตเลขที่ 14/03870
ทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวฯ ได้เพิกถอนใบอนุญาต ตามคำสั่งนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคกลาง ที่ 111/2567 เรื่องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว บริษัท ฉางหลง ทราเวล จำกัดใบอนุญาตเลขที่ 14/03881 เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ และได้เพิกถอนใบอนุญาต ตามคำสั่งนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคกลาง ที่ 110 / 2567 เรื่องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว บริษัท เซิน โจว สิง ทัวร์ จำกัด ใบอนุญาตเลขที่ 14/03870 เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ
ขณะเดียวกันการดำเนินการขั้นตอนต่อไปคณะทำงานฯ (ศปต.) จะได้รวบรวมเอกสารและหลักฐานทางทะเบียนทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
