สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคา ทองคำ ในไทยวันนี้ 4 เม.ย. 2567ปิดตลาดปรับขึ้น +300 บาท หลังปรับราคาขึ้น–ลงรวม 4 ครั้ง โดยยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ส่งผลให้ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 39,750.00 บาทและขายออก 39,850.00 บาท ส่วน ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 39,037.00 บาท และขายออก 40,350.00 บาท/บาททองคำ
ทั้งนี้ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,294.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 36.68 บาท/ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามราคาทองคํายังคงอยู่ในลักษณะแนวโน้มทิศทางขาขึ้น Super Bullish โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคํา จะมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 2,285 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 2,315 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนยังคง แนะนําให้ถือครองในระยะยาว และขายทํากําไรเป็นช่วงๆ และเข้าซื้อเมื่อราคาทองคําย่อตัวลง
สําหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,315 เหรียญ และแนวต้าน 2,345 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,305 เหรียญ และแนวต้าน 2,335 เหรียญ
ในส่วนของราคาทองไทย จะมีแนวรับระยะสั้นที่ 39,750 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 40,200 บาท ภาพรวม ราคาทองไทยยังคงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วโดยราคาทองไทยทําจุดสูงสุดใหม่เข้าใกล้ระดับ 40,000 บาทต่อบาททองคําอยูที่ระดับ 39,950 บาทต่อบาททองคําในเช้านี้
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ระบุว่า ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย เพื่อต้องการให้เงินเฟ้อลดลง ทำให้ราคาทองคำค่อยๆ ดีดตัวขึ้นมา และทำจุดสูงสุดช่วงปลายปีที่ 2,144 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และย่อลงมา ส่วนต้นปีนี้ เปิดตลาดที่ 2,062 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และ Sideway ประมาณ 1-2 เดือน กระทั่งปลายเดือนมีนาคม ทองคำดีดตัวขึ้นจุดสูงสุดอีกครั้ง และยังปรับตัวขึ้นร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง โดย YLG มองเป้าหมายไว้ที่ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ภายในครึ่งปีแรก และถ้าหากผ่านไปได้มองว่าจะไปถึง 2350 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% เปิดตลาดเมื่อต้นปีที่ 33,550 บาทต่อบาททองคำ และปรับตัวขึ้นมาถึงบริเวณ 39,700 บาทต่อบาททองคำ ส่วนทองคำรูปพรรณ ราคาทะลุ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ให้ไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่จะเห็นราคาแตะ 45,000 บาท
โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำขึ้นมาแล้วประมาณ 10% ขณะที่เงินบาทขึ้นมา 7% หากซื้อทองต้นปี 33,550 บาท และขายในระดับที่ราคาทองทะลุ 40,000 บาท ได้กำไรไปแล้ว 17-18% การที่ทองคำทำลายสถิติราคาสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องจับตาใกล้ชิดถึงปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลต่อราคาทองคำ
