ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 39,558 จุด +126 จุด หรือ +0.32% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,246 จุด +25 จุด หรือ +0.48% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,511 จุด +122 จุด หรือ +0.75%
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.16%, +1.85% และ +1.14% ตามลำดับ ในเดือนเมษายนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วง -5%, -4% และ -4% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2023 และยังปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
สาเหตุจากประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ว่าส่วนตัวคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐปีนี้จะยัคงลดลงต่อเนื่องเหมือนในปี 2023 และแทบเป็นไปไม่ได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีกนอกจากนี้รอประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคในคืนวันนี้
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน ปี 2024 อยู่ที่ 21% จากเดิมที่ระดับ 50% ขณะที่โอกาสดังกล่าวที่จะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 69%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ