กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีท่าทีชัดเจนในการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนบางรายการในอัตราการจัดเก็บที่มากเกินไปนั้น จะเป็นการดีกว่า ถ้าสหรัฐฯ ดำเนินนโยบายการค้าแบบเปิดกว้าง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจ
ไอเอ็มเอฟยังคงสนับสนุนให้สหรัฐฯ และจีนหันหน้าเข้าหากันเพื่อหาทางออกสิ่งที่เป็นข้อกังวลหลัก ๆ ซึ่งสร้างความตึงเครียดด้านการค้า ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันภายใต้กรอบความร่วมมือแบบพหุภาคีเพื่อแก้ไขความเห็นต่างเหล่านี้
นอกจากนี้ ยังระบุว่าการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจอาจส่งผลให้เกิดผลที่ตามมาหลายรูปแบบ โดยในกรณีที่รุนแรงที่สุด เศรษฐกิจโลกอาจหดตัวลง 7% เท่ากับขนาดเศรษฐกิจของเยอรมนีและญี่ปุ่นรวมกัน ผลกระทบที่ตามมาอาจรุนแรงขึ้นหากแยกย่อยออกเป็นด้านการค้าและด้านเทคโนโลยี
ขณะที่ เลล เบรนาร์ด ที่ปรึกษาระดับสูงฝ่ายเศรษฐกิจ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวปกป้องการบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีว่า เป็นเรื่องจำเป็นเพื่อปกป้องภาคการผลิตและการจ้างงานของสหรัฐฯ จากสินค้าส่งออกของจีนที่ตัดราคาอย่างไม่เป็นธรรม