นายเผ่าภูมิ โรจนะสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยถึงเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า ขณะนี้เงื่อนไขการใช้จ่ายยังเหมือนเดิม โดยประชาชนสามารถนำเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซื้อได้ในทุกสินค้าที่ไม่อยู่ในกลุ่มสินค้าต้องห้าม 16 รายการ รวมถึงภาคบริการซึ่งมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมคอไปแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนประเด็นที่มีข้อสงสัยว่าเงินดิจิทัลสามารถซื้อโทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้านำเข้าอื่นได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าขณะนี้สามารถใช้เงินดิจิทัลซื้อได้เพราะไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าต้องห้าม และสินค้านำเข้าหลายรายการก็เป็นสิ่งของจำเป็นรวมถึงโทรศัพท์มือถือ
ทั้งนี้ การประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลเมื่อวานนี้ ได้มีการหารือกันถึงประเด็นกรณีกลุ่มที่อาจเข้าไม่ถึงสมาร์ทโฟน โดยได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนารัฐรัฐบาลดิจิทัลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการศึกษาต่อ ซึ่งกลไกเบื้องต้นได้ออกแบบให้ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน กลุ่มที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก อาทิ ผู้ป่วยติดเตียง คนชรา ผู้พิการ ก็จะให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนในการใช้จ่ายแทนได้ ซึ่งจะมีกลไกติดตามตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตเช่นการสวมสิทธิ์
ขณะที่ในสัปดาห์หน้า จะมีการนัดหมายพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ในการทำระบบควบคุมแบบเปิดของโครงการดิจิทัล Wallet เบื้องต้นได้รับความสนใจจากธนาคารพาณิชย์ที่จะเชื่อมโยงระบบการใช้จ่ายในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยถือเป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนจะได้เข้าถึงได้มากขึ้น
ทั้งนี้ยังยืนยันกรอบระยะเวลาการดำเนินงานตามเดิมคือ เปิดให้ร้านค้าและประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการภายในไตรมาสที่สามปีนี้ ซึ่งคนที่เคยยืนยันตัวตนกับโครงการของรัฐสามารถกดรับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต ในแอปฯทางรัฐได้เลย ไม่ต้องไปเริ่มต้นกระบวนการยืนยันตัวตนใหม่