ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,349.83 จุด ลดลง 12.87 จุด หรือ -0.94% มูลค่าการซื้อขาย 44,138.94 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางปรับตัวลงทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,349.83 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,363.96 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. PTT มูลค่า 2,737.70 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 33.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.76%
2. STA มูลค่า 2,405.23 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.90 บาท หรือ 19.70%
3. CPALL มูลค่า 2,163.21 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 52.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.58%
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตลอดทั้งวันเนื่องจากเมื่อวานนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีซึ่งให้ผลตอบแทน (ยีลด์) สูง ดังนั้นยีลด์จึงส่งผ่านไปสู่บอนด์ชนิด 10 ปีด้วย
รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวดีกว่าคาดดังนั้นนักลงทุนจึงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ประกอบกับความเสี่ยงจากประเด็นการเมืองหลังสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้อง ‘ทักษิณ’ คดี ม.112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนวันพรุ่งนี้ดัชนีฯ มีโอกาสหลุดทะลุไปถึง 1,330 จุด ในขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,360 จุด
ขณะที่ นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงสอดคล้องตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐและยุโรปที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมทั้งตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือนพ.ค.ของจีน
วันนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีน จากระดับ 4.6% สู่ 5% หนุนให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ แต่ตลาดบ้านเรานอกจากถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศแล้ว ยังเกิดความกังวลกรณีที่รัฐบาลจะเพิ่มงบขาดดุลปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเลต และเงินบาทที่อ่อนค่าลงกดดัน Flow ไหลออกต่อเนื่อง ทำให้มีแรงขายในหุ้นใหญ่ออกมามาก และยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ยังอยู่ในโซนต่ำ ต้องรอติดตามว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกหรือไม่
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีซึมตัว เมื่อหลุดแนวรับ 1,350 จุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,340 จุด และแนวต้าน 1,360 จุด ขณะที่นักลงทุนรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญปลายสัปดาห์ หากเงินเฟ้อยุโรปออกมาลดลง อาจเพิ่มน้ำหนักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 6 มิ.ย.นี้