ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,352.09 จุด เพิ่มขึ้น +6.43 จุด หรือ +0.48% มูลค่าการซื้อขาย 4,456.81 ล้านบาท ช่วงเปิดตลาดเช้านี้
ตลาด SET 50 เปิด 830.95 จุด ปรับ +4.99 จุด หรือ +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 3,611.68 ล้านบาท ตลาด mai เปิด 381.10 จุด ปรับ +1.18 จุด หรือ +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 58.57 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมิน SET แม้ได้ sentiment บวก จากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นภูมิภาคเมื่อวานนี้ ขณะที่ SET ปิดทำการ อย่างไรก็ตาม คาดกรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1350-1360 จุด จากกลุ่มพลังงานถ่วงดัชนี ตามราคาน้ำมันที่ปรับลง แม้ประชุม OPEC+ มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตก็ตาม ด้านแนวรับอยู่ที่ 1340 จุด หากต่ำกว่าเป็นสัญญาณลบต่อ
ช่วงสั้นมอง SET ยังเปราะบางและแกว่งตัวในกรอบ โดยในประเทศยังขาดปัจจัยหนุนใหม่และมีปัจจัยการเมืองกดดันบรรยากาศลงทุน ทำให้ SET ยัง Underperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค อย่างไรก็ดี ยังคาดหวังแรงหนุนดัชนีจากผลประกอบการของ บจ. ไทยที่จะเติบโตดีขึ้นตั้งแต่ 2Q67 และปัจจัยต่างประเทศสัปดาห์นี้จะเป็นบวก อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิต พ.ค. ของจีนและสหรัฐคาดจะปรับตัวดีขึ้น หลังมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 6 มิ.ย. จะเริ่มมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรก
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสแกว่งตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการไป 1 วัน โดยสหรัฐรายงานเงินเฟ้อ PCE เดือน เม.ย.เป็นไปตามที่ตลาดคาด และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond yield) 10 ปีปรับตัวลง ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้จีนมีการรายงาน PMI ภาคการผลิตออกมาดีขึ้น ทำให้เป็น sentiment บวกต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเมื่อวานนี้ และคาดว่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ และตลาดหุ้นอี่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้าวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยให้แนวต้าน 1,355-1,360 จุด แนวรับ 1,335-1,340 จุด