สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ 19 เมษายนผ่านไป เกิดเหตุชาว จีน ใช้มีดไล่แทงประชาชนที่สถานีรถไฟฟ้าแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ส่งผลมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ขณะที่ผู้ก่อเหตุถูกตำรวจจับกุมไว้ได้ ซึ่งยังคงสอบสวนหาสาเหตุและแรงจูงใจแท้จริงในการก่อเหตุการณ์ที่แทบที่จะเกิดขึ้นได้ยากมากในสังคมเมืองขนาดใหญ่อย่างนครเซี่ยงไฮ้ เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้างในเว่ยป๋อ ซึ่งเป็นสื่อโซเชียลชื่อดังของจีน
ผู้ใช้สื่อโซเชียลชาวจีนจำนวนไม่น้อยในเว่ยป๋อ ไปค้นหาข้อมูลของชายผู้ก่อเหตุ พบว่าเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น บางรายแสดงความคิดเห็นว่า แรงกดดันของภาวะเศรษฐกิจจีนกำลังเพิ่มมากขึ้นมาสู่คนจีนทุกคนต่อเนื่อง ขออย่ายั่วยุ หรือพูดจากลั่นแกล้งคนจีนด้วยกัน คุณไม่รู้หรอกว่าความอดทนมีขีดจำกัดแค่ไหน จงอย่าปล่อยตัวเองต้องตกเป็นเหยื่อของบรรยกาศเศรษฐกิจจีนในเวลานี้ บางรายโพสต์ว่า เมื่อเศรษฐกิจจีนย่ำแย่ ปัญหาสังคมเพิ่มขึ้นมาก คนกำลังกลายเป็นคนที่ก้าวร้าวมากขึ้น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ การศึกษาสังคมแห่งวิทยาลัยพิทเซอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา นายฮันจาง หลิว กล่าวว่า เป็นไปได้ที่คนก่อเหตุดังกล่าวมีปัญหามาจากความทรมานของภาวะเศรษฐกิจจีนตกต่ำ และความกังวลมากขึ้น ด้านองค์กรมีชื่อว่าฟรีด้อม เฮ้าส์ ซึ่งติดตามตัวชี้วัดภาวะความไม่พึงพอใจในประเทศจีน เปิดเผยว่า การประท้วงของประชาชนจีนเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ได้กลายเป็นสิ่งบ่อยครั้งมากขึ้น และคิดเป็น 80% ของความไม่พึงพอใจของประชาชนในที่สาธารณะในประเทศจีน จ้าวปิ๋น ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มค้นหางานชื่อดังของจีน เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลานั้น มีเกือบ 1 ใน 3 ของมนุษย์เงินเดือนในสำนักงานต้องเผชิญกับเงินเดือนลดต่ำลง
เหตุการณ์ไล่แทงประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับหลายแห่งที่มีการเปิดเผยรายงานออกมา ได้แก่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เหตุการณ์ชาวจีนในตะวันออกเฉีงเหนือของเมืองจี้หลิน ใช้มีดแทงครู 4 คนที่มาจากสหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤษภาคมผ่านไป เกิดเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต 2 รายจากการใช้มีดทิ่มแทงในโรงเรียนชั้นประถมที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเจียงซี เหตุการณ์นี้มีผู้คนในโลกโซเชียลจำนวนมากถึง 390,000 คน แสดงความคิดเห็นในสื่อโซเชียลของเว่ยป๋อ มีหนึ่งในนั้นถามหากาลลงโทษที่รุนแรงมากขึ้นกับผู้กระทำผิด เพราะเศรษฐกิจจีนซบเซา ชีวิตกลายเป็นมีความยากลำบาก และคนเสียสติเกิดพบเห็นบ่อยครั้งมากขึ้น
ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด และสาเหตุแท้จริงกรณีชาวจีนในตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองจี้หลิน ใช้มีดแทงครู 4 คนนั้น แต่หนึ่งในเหยื่อที่ถูกแทง เปิดเผยว่า สำนักข่าวิทยุสาธารณะไอโอวา ว่า ชายชาวจีนที่ลงมือก่อเหตุใช้มีดไล่แทง เป็นคนตกงาน และประสบโชคร้าย เหตุการณ์การใช้มีด หรือการใช้ยานพาหนะ เช่น รถยนต์ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายอย่างไม่คาดฝันในจีนได้กลายเป็นเรื่องแทบจะปกติ เนื่องจากรัฐบาลจีนมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากกับการมีอาวุธปืน และระเบิด
ทางการจีนได้ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจกับความรุนแรงในสังคมที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว สะท้อนจากวิทยาลัยตำรวจกวางตุ้ง เปิดเผยว่า ได้วิเคราะห์คดีความรุนแรงในการทำร้ายช่วงปี 2000-2021 ที่อยู่ในกลุ่มคนระดับสูงจำนวน 140 คดี ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ผู้ก่อเหตุไม่เคยต้องโทษคดีความอาชญากรรมมาก่อนเลย ข้อมูลงานวิจัย พบว่า เศรษฐกิจจีนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หลายภาคส่วนในสังคมต้องเสียเปรียบมากขึ้น ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจจนนำไปสู่การใช้ความรุนแรง
ด้านภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับสถานการณ์ความไม่เชื้อมั่นในการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 1 ปี โดยกระทรวงพาณิชย์ ประเทศจีน เปิดเผยข้อมูลการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอใน 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า มีมูลค่า 412,510 ล้านหยวน หรือ 56,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.1 ล้านล้านบาท ซึ่งตกต่ำลงถึง -28.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา นอกจากนี้ การลงทุนทางตรงในเดือนพฤษภาคมยังส่งผลทำสถิติยอดการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศลดลงต่อเนื่องถึง 12 เดือนติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบ 1 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 เป็นต้นมา นอกจากนี้ การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ หรือเอฟดีไอในเดือนดังกล่าว ยังเป็นสัดส่วนที่ลดลงต่ำกว่าในเดือนเมษายนซึ่งตกต่ำมากถึง -27.9% สะท้อนถึง รัฐบาลจีนยังคงเผชิญกับปัญหาในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่าต่อเนื่อง