นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลก (world bank) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2567 จาก 2.8% เหลือ 2.4% ว่าการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของ world bank ลงเป็นการปรับลงมาใกล้เคียงกับการที่หน่วยงานเศรษฐกิจของไทยได้คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ ซึ่งการปรับลดจีดีพีไทยลงอาจเป็นเพราะยังไม่เห็นว่าเรามีเครื่องมือ เม็ดเงินหรือโปรเจ็กต์อะไรที่กำลังจะผลักดันออกไป และยังไม่รวมโครการดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามารวมในประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องพยายามทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย 3%
สำหรับมาตรการในการกระตุ้นตลาดหุ้นและตลาดทุนที่รัฐบาลแถลงไป เหมือนตลาดและนักลงทุนยังตอบรับไม่ชัดเจนนั้น นายพิชัย กล่าวว่าในเรื่องนี้หากรัฐบาลไม่ทำอะไรสักอย่าง ดัชนีตลาดหุ้นก็จะไหลลงไปเรื่อยๆ อย่างน้อยมาตรการที่ประกาศไปเป็นการยันไว้ไม่ให้ตลาดลงไปมาก แล้วดัชนีหุ้นก็อยู่แถวๆนี้ และอีกสาเหตุหนึ่งข้อต่อมายังต้องไม่ลืมว่าผลตอบแทนการลงทุนสินทรัพย์ในต่างประเทศวันนี้ดีกว่าในประเทศไทย เช่นผลตอบแทนด์ในเรื่องของการลงทุนในพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) นั้นสูงกว่า แล้วในต่างประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก็เตรียมตัวที่จะลดดอกเบี้ยกัน ในช่วงนี้นักลงทุนจึงมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปลงทุนในตลาดที่ผลตอบแทนสูงก่อน
“เป็นเรื่องธรรมดาของทุกที่ที่เงินจะเคลื่อนย้ายหาที่อยู่ มันไปมา เดี๋ยวจังหวะเราได้ เดี๋ยวเงินทุนก็จะเคลื่อนย้ายกลับเข้ามาเอง” นายพิชัย กล่าว
ส่วนการปรับเงื่อนไขของกองทุน Thai ESG ใหม่ที่ได้มีการแถลงไปแล้วกำลังทำงานอยู่ตอนนี้ใกล้จะเสร็จแล้วและจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเร็วๆ นี้