ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 82.21 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.5% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.4% ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 2 วันติดกันรวม +0.67 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.8%
ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง ปิดลดลง -1.1% และ -1.7% ตามลำดับ สิ้นสุดมิถุนายนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +5.9% ส่งผลตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐ และเบร็นท์ อังกฤษ ปิดเพิ่มขึ้น +13.8% และ +12.1% ตามลำดับ
สาเหตุจากดัชนีความเชื่อมั่นชาวอเมริกันเดือนกรกฎาคมร่วงลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ท่ามกลางมุมมองคาดการณ์เงินเฟ้อที่เป็นไปในทิศทางบวกในปีหน้าและปีต่อๆ ไป ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเดือนมิถุนายนในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันครั้งสุดท้ายมีผลวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง 30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาครั้งแรกในรอบการขึ้นราคามาทั้งหมด 5 ครั้งต่อเนื่อง ในเกือบ 3 สัปดาห์ผ่านมา หรือตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2567 ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ หรือตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมผ่านมา