ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง. ธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ส.ค. 2567 นี้ คาดว่า กนง. ยังมีมติไม่เป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ต่อเนื่อง โดยคงให้ปัจจัยสนับสนุนดังต่อไปนี้
กนง. ส่งสัญญาณในการประชุมรอบที่แล้วว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ปรับดีขึ้น รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงินในระยะยาว อีกทั้งสามารถรองรับความเสี่ยงด้านบวกและด้านลบได้ในระดับหนึ่ง
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าเป็นผลจากปัญหาเชิงโครงสร้าง อาทิ การสูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน การเข้าสู่สังคมสูงอายุและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งนโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีศักยภาพขยายตัวต่ำลง
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงให้น้ำหนักว่า กนง. จะตรึงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ไปตลอดทั้งปีนี้ แต่ก็มองความเป็นไปได้ที่ กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในไตรมาส 4/2567 มีสูงขึ้น เนื่องจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมากกว่าที่เคยคาดไว้ โดยล่าสุดตลาดมองว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยถึง 100 basis points ในปีนี้ หลังตัวเลขตลาดแรงงานและเงินเฟ้อออกมาอ่อนแรงลง ซึ่งคงส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันให้มีแนวโน้มอ่อนค่า และค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงที่มากขึ้นจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลง สะท้อนจากดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังปรับลดลงต่อเนื่อง
นอกจากนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อมีแนวโน้มยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มกลับเข้าสู่เป้าหมายของ ธปท. 1-3% ในไตรมาส 4/2567 โดยส่วนหนึ่งจากปัจจัยฐานต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยในปี 2567 อยู่ที่ราว 0.8%
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติตรึงดอกเบี้ยมาทั้งหมด 4 ครั้งต่อเนื่อง โดยมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ตรึงดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งจากการประชุมใน 4 ครั้งย้อนหลังไปจากครั้งล่าสุด มีดังนี้
ปี 2567:
7 กุมภาพันธ์ เสียงแตก 5:2 ตรึงดอกเบี้ย
10 เมษายน เสียงแตก 5:2 ตรึงดอกเบี้ย
12 มิถุนายน เสียงแตก 6:1 ตรึงดอกเบี้ย
ปี 2566: วันที่ 29 พฤศจิกายน เสียงเอกฉันท์ตรึงดอกเบี้ย วันที่ 27 กันยายน เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 2.5% วันที่
2 สิงหาคม เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 2.25% วันที่ 31 พฤษภาคม เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 2.00% วันที่ 29 มีนาคม เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.75% และวันที่ 25 มกราคม เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.50%
ปี 2565 วันที่ 30 พฤศจิกายน เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.25% วันที่ 28 กันยายน เสียงเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1.00% วันที่ 10 สิงหาคม เสียงแตก 6:1 ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.75% วันที่ 8 มิถุนายน เสียงแตก 4:3 ตรึงดอกเบี้ยเป็น 0.25%