นางสาวอุษณีย์ ถิ่นเกาะแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการลงทุน กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่า ซึ่งการสร้างฐาน อุตสาหกรรมอีวี ถือเป็นนโยบายระดับประเทศที่หลายหน่วยงานร่วมกันผลักดัน โดย BOI พร้อมสนับสนุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีครอบคลุมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกเซกเมนต์ และชิ้นส่วนที่ๅๆฟผ1ยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จ โดยต้องมีขนาดลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการ SMEs และไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป นอกจากนี้ ทางสำนักงานฯ มีมาตรการยกระดับอุตสาหกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ สำหรับกิจการที่แผนจะปรับเปลี่ยนสายการผลิต หรือ การใช้พลังงานทดแทนโดยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งกิจการที่ดำเนินการอยู่แล้วสามารถขอรับการส่งเสริมจาก BOI ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเคยได้รับส่งเสริมหรือไม่ก็ตาม โดยได้รับสิทธิและประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% ของเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในโครงการนั้นๆ
ด้าน นายศุภฤทธิ์ เมฆอรุณกมล ผู้อำนวยการอาวุโส SME Bangkok 1 Function ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนทุกโอกาสการเติบโตให้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อนำไปสู่โอกาสในการใช้นวัตกรรมการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยให้ธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในองค์กร หรือ เพื่อการขนส่งเชิงพาณิชย์ ธนาคารมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ (Sustainable Finance) สินเชื่อระยะยาว ให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100% ของโครงการ ดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% (1 ปีแรก) ผ่อนนาน 10 ปี วงเงินหมุนเวียนในธุรกิจ ไม่ต้องใช้หลักประกัน สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนนาน10 ปี นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถประหยัดพลังงาน วงเงินสูงสุด 30 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเปลี่ยนธุรกิจเป็นธุรกิจรักษ์โลก ด้วยเงินทุนสนับสนุนการปรับปรุงด้าน ESG ลงทุนเทคโนโลยีที่ลดการใช้พลังงานและทรัพยากร ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบหรืออุปกรณ์เพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในอาคาร , เงินทุนซื้อรถประหยัดพลังงาน เปลี่ยนยานพาหนะเป็นประเภทไฟฟ้าหรือไฮบริดสำหรับธุรกิจ,สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า