สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไข่ เปิดเผยว่า ได้ประกาศแจ้งสมาชิกสมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไข่เกี่ยวกับการปรับราคาไข่เป็ดหน้าฟาร์ม โดยแจ้งปรับขึ้นราคาขึ้นอีก 10 สตางค์/ฟอง ส่งผลให้ราคา ณ หน้าฟาร์มขึ้นเป็นราคา 5.10 บาท/ฟอง มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงราคาสมาคมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับการปรับราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ในรอบปีนี้ เริ่มปรับราคาครั้งที่ 1 วันที่ 22 เม.ย. ฟองละ 20 สตางค์ ครั้งที่ 2 วันที่ 6 พ.ค. ฟองละ 20 สตางค์ ครั้งที่ 3 วันที่ 20 พ.ค. ฟองละ 10 สตางค์ ครั้งที่ 4 วันที่ 3 มิ.ย. ฟองละ 10 สตางค์ และครั้งที่ 5 ในวันนี้ 23 ส.ค. ฟองละ 10 สตางค์ โดยราคาหลังการปรับขึ้นในช่วงก่อนถึงวันนี้ 23 สิงหาคม ส่งผลให้ราคาขึ้นมาอยู่ที่ 5 บาทต่อฟอง หรือปรับขึ้นสุทธิ 70 สตางค์ต่อฟอง หรือแพงขึ้นสุทธิ 15.9%
นอกจากนี้ ราคาไข่เป็ดที่ฟองละ 5.10 บาท ยังเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในยุคนายกรัฐมนตรีหญิงนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร
ย้อนกลับไปครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมผ่านมา เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งเพื่อเก็บไข่ขายที่จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัญหาโลกร้อน อากาศร้อนจัดทำให้เป็ดไม่ออกไข่ และหากออกไข่มาก็ไม่มีคุณภาพ ที่สำคัญอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดทำให้เป็ดไม่กินอาหาร พร้อมกันนี้ยังประสบปัญหาเรื่องภัยแล้งกระทบแหล่งน้ำ ทำให้แหล่งน้ำไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ วันที่ 29 สิงหาคม 2565 สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดไข่ปรับขึ้นราคาไข่เป็ด 10 สตางค์ /ฟอง มีผลทันทีในวันดังกล่าว ในครั้งนั้น เป็นการขึ้นราคาไข่เป็ด 3 ครั้งติดต่อกันในรอบไม่ถึง 1 เดือน ส่งผลให้ราคาไข่เป็ดขนาดใหญ่อยู่ที่ 5.10 บาท/ฟอง ทำสถิติราคาไข่เป็ดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สาเหตุจากผู้เลี้ยงเป็ดไข่ปลดกรงทำให้ไข่เป็ดขาดตลาด