ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 74.52 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.34% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.90 หรือ -3.74% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 78.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.13% ส่งผลราคาปิดลง 2 วันติดกันรวม -2.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.43%
สาเหตุจากความกังวลในสถานการณ์เศรษฐกิจของทั้งสหรัฐอเมริกา จีน เยอรมนี ที่มีแนวโน้มผันผวนในแง่ชะลอตัว อัตราการว่างงานสหรัฐแตะ 4.3% สูงสุดในรอบ 3 ปี กองทุนบริหารจัดการสินทรัพย์ยูบีเอส ปรับเพิ่มโอกาสเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาถดถอยจากเดิมมีโอกาส 20% ขึ้นเป็น 25% ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ลดเป้าคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปีนี้ลง 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ระหว่าง 70-85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และในปี 2025 ลดลงเหลือ 77 จาก 82 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวในปีนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจเยอรมนีชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 23 สิงหาคม 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลง -30 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกใน 4 วันผ่านมา และเป็นการลดราคาครั้งที่ 8 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม หรือใน 1 เดือน 1 สัปดาห์กว่า รวมลดลงสะสม -2.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 7 เดือน หรือตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมผ่านมา