สำนักจัดการและส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ SAFE เปิดเผยว่าคุณค่าเม็ดเงินการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศลดลงเป็นช่วงไตรมาสสองของปีนี้มีจำนวน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 540,000 ล้านบาท ส่งผลทำสถิติเงินลงทุนทางตรงต่างชาติไหลออกมากเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นการถอนการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศออกจากประเทศจีนรวม 2 ไตรมาสติดกัน หรือใน 6 เดือนแรกของปี 2024 นี้ โดยมูลค่าการลงทุนทางตรงลดลงอีก 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงกว่า 180,000 ล้านบาท
นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า แนวโน้มการถอนการลงทุนทางตรงของต่างชาติออกจากประเทศจีนในช่วงที่เหลือปีนี้อาจมีต่อเนื่อง นั่นอาจทำให้สิ้นสุดปี 2024 มูลค่าเม็ดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศจะไหลออกสุทธิจากจีน ส่งผลให้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี นับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา
การถอนการลงทุนทางตรงออกจากประเทศจีนนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2021 ที่มีมูลค่าการลงทุนทางตรงจากต่างชาติในประเทศจีนสูงสุดเป็นสวัสดิการมากถึง 344,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกว่า 12.38 ล้านล้านบาท ปัจจัยที่ทำให้ต่างชาติก่อนกันทางตรงออกมานั้นเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวลงและต่อเนื่องนับตั้งแต่ก่อนเกิดติดโรคระบาด โควิด-19 และเสาร์มากยิ่งขึ้นในช่วงการระบาดจากนโยบายล็อกดาวน์
นอกจากนี้ความขัดแย้งด้านการเมืองและสันติระหว่างประเทศของทั้งจีนแผ่นดินใหญ่และสหรัฐอเมริการวมถึงความขัดแย้งด้านปัจจัยภูมิภาคระหว่างจีนและไต้หวัน นอกจากนี้นโยบายของท่านอุตสาหกรรมจีนที่หันไปเน้นการผลิตทดแทนพลังงานพลังงานไฟฟ้าหรืออีวีโดยต้นทุนต่ำและราคาถูกส่งผลให้ยักษ์ใหญ่ต่างประเทศล้วนตัดสินใจลดการลงทุนและถอนการลงทุนออกจากจีน
ข้อมูลการลงทุนทางตรงที่ลดลงต่อเนื่องในจีนนั้น ดูเหมือนจะสวนทางกับความพยายามของรัฐบาลจีนที่พยายามจะนำเสนอให้เอกชนจากต่างประเทศเห็นว่ารัฐบาลจีนยังคงต้องการเงินลงทุนใหม่จากต่างประเทศโดยการนำเสนอมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนเงินทุนต่างชาติในช่วงปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นนโยบายที่ลดแรงเสียดทานและแรงกดดันจากโลกตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่มีต่อจีน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยข้อมูลการลงทุนทางตรงใหม่ หรือเอฟดีไอ จากต่างประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า ลดต่ำลงในรอบ 4 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกัน หรือไตรมาสที่ 2 พบว่า เอกชนจีนเพิ่มการลงทุนทางตรงออกนอกประเทศจีน โดยมูลค่าสูงถึง 71,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐ หรือกว่า 2.56 ล้านล้านบาท ส่งผลเป็นมิตรการลงทุนทางตรงสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 89% เมื่อเทียบประชุมเดียวกันในปีที่แล้วที่มีมูลค่าเพียง 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.4 ล้านล้านบาท สำหรับการลงทุนทางตรงของเอกชนจีนในต่างประเทศจะมีน้ำหนักไปที่อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้า
ทั้งนี้ การค้าระหว่างประเทศของจีนที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ทำให้จีนอยู่เกินดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่่ 3.13 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ภายใน 6 เดือนแรกของปีนี้จีนมีการค้างเกินดุลสูงถึงเกือบ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.4 ล้านล้านบาท