นายเดวิด โรช (David Roche) นักกลยุทธ์และนักลงทุนอิสระ ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากตลาดทุนทั่วโลกมากที่สุดคนหนึ่งจากสถาบันการเงินชื่อดัง ควอนตั้ม สตราเทจี้ (Quantum Strategy) เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นจะเกิดภาวะหมี หรือ Bear Market ในปี 2025 นี้ สาเหตุมาจากธนาคารกลางสำคัญและอิทธิพลขนาดใหญ่ของโลกปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงน้อยกว่าที่คาดไว้ สหรัฐอเมริกาจะชะลอตัวลง และภาวะของสบู่แตกในกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ
เริ่มจากปัจจัยแรก คือนักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์ รวมถึงนักลงทุน ล้วนคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดจะลดดอกเบี้ยระยะสั้นมีจำนวนครั้งมากขึ้น จนกระทั่งลงบัญชีที่ระดับ 3.50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.25-5.50 % อย่างไรก็ตามในปี 2025 คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวน้อยกว่าที่คาดไว้ นายเดวิด โรช คาดการณ์ว่าเฟดจะลดลงเหลือเพียง 4.1% เท่านั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปัจจัยดังกล่าวจะลดต่ำกว่า 4.1% เดือนกันยายนปี 2025
ปัจจัยต่อมาคือ ผลประกอบการของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ โดยเฉพาะผลกำไรสุทธินั้นจะไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์โดยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่เริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่ปีนี้จนถึงปีหน้า และปัจจัยสุดท้ายพบว่า ขณะนี้ธุรกิจการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เริ่มมีสัญญาณการเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ในปีนี้ และให้จับตามองภายใน 6 เดือนข้างหน้าขึ้นไป ซึ่งมีสัญญาณการเกิดภาวะฟองสบู่แตกของธุรกิจเอไอ
นายเดวิด โรช (David Roche) กล่าวว่า ทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวนี้เพียงพอที่จะทำให้เกิดภาวะหมี หรือ Bear Market ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญอื่นๆ นั่นหมายถึง ดัชนีหุ้นจะตกต่ำมากถึง -20% จากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภาวะหมีนี้จะเกิดขึ้นในปี 2025 หรือบางทีภาวะหมีในตลาดหุ้นอาจจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ก็เป็นไปได้ การคาดการณ์ดังกล่าวนั้นไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยผู้นำสูงสุดสหรัฐคนใหม่ที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้