นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษวันนี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังวานนี้พรรคร่วมรัฐบาลมีมติเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มองไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะนางสาวแพทองธาร มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่ต้นแล้ว มองว่าผู้นำรัฐบาลน่าจะยังเป็นพรรคเดิม แต่ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนขอให้จับมือทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยเร็ว
ส่วนประเด็นความเชื่อมั่นจากต่างชาตินั้น ปกติการฟอร์มทีม ครม. ใช้เวลา 2-3 เดือน แต่ครั้งนี้อยากให้ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งดูจากการที่พรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันแน่น ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ เชื่อว่าหากมีการจัดทำนโยบายที่มีความต่อเนื่องก็จะสามารถดึงความเชื่อมั่นกลับมาได้ พร้อมฝากถึงรัฐบาลใหม่ว่าตอนนี้ปัญหาใหญ่ คือเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน และช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอยู่รอด ที่ต้องปิดตัว จากสภาพเศรษฐกิจ และ การทะลักเข้ามาของสินค้าราคาถูกและสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ จึงเสนอให้ภาครัฐออกมาตรการกำหนดดูแลผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากต่างประเทศด้วย
สำหรับโครงการ Digital Wallet จะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น ไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่หากยังมีต่อ ก็มีข้อเสนอให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขการซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศ หรือสินค้า Made in Thailand ในโครงการ Digital Wallet เพื่อสร้างโอกาสและทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในธุรกิจของผู้ประกอบการไทย