ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคา น้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหลือ ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ลงอีก 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลจากเดิมเคยมองที่ระดับ 75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาเหลือที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเป็นการปรับลดราคาคาดการณ์ลงเป็นครั้งที่ 2 ภายในหลายสัปดาห์ผ่านมาจากที่เคยมองว่าจะอยู่ที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นอกจากนี้ ยังปรับลดราคาคาดการณ์ในปี 2025 ลงอีกเล็กน้อยจากเป้าหมายเดิม
นายมาร์ติจน์ แรทส์ นักวิเคราะห์ ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ เปิดเผยว่า สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะชะลอตัวชัดเจน และจีนมีสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของกลุ่มโอเปกพลัสในการปรับขึ้นกำลังผลิตน้ำมันดิบในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งมีมติเลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบออกไปอีก 2 เดือนถึงพฤศจิกายนปีนี้ ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2024 ร่วงดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 2 ปี 8 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021
จากการประเมินช่วงระยะเวลาของวงจรราคาน้ำมันดิบโลก จะพบว่า ราคาเมื่อเปรียบเทียบแนวโน้มอนาคต ชี้ให้เห็นถึงการมาถึงของภาวะเศรษฐกิจคล้ายสภาพถดถอย ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 กันยายนผ่านมา ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา หรือบีโอเอ เปิดเผยว่า ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหลือ ในปี 2025 ลงอีก 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลจากเดิมเคยมองที่ระดับ 75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาเหลือที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล