นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.67 พบว่า อยู่ที่ 56.6 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 13 เดือน นับตั้งแต่เดือน ส.ค.66 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 50.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 53.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 65.6 โดยดัชนีฯ ทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
เนื่องมาจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทย ที่ยังคงชะลอตัวลงและฟื้นตัวช้า เพราะยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนของรัฐบาลใหม่ ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และผู้บริโภคยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้ออาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ดี คาดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ หากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทในปลายปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 67 ขยายตัวได้ 2.6-2.8% แต่หากไม่มีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 2.4-2.6%