สำนักข่าวซีเอ็นบีซี ซึ่งเป็นสำนักข่าวด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลสำรวจของนักเศรษฐศาสตร์ ผู้จัดการกองทุน และนักกลยุทธ์การลงทุนที่เกี่ยวกับมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 กันยายนนี้ ซึ่งตรงกับเวลาช่วงกลางคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย พบว่ามีมากถึง 84% มองว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในขณะที่มี 16% มองว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากถึง 0.5% ในขณะที่ตัวชี้วัดโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด หรือ FED Future Markets พบว่า มีโอกาส 65% ที่จะลดดอกเบี้ยสูงถึง 0.5%
สำหรับมุมมองที่ประเมินว่าภายในสิ้นปี 2024 นี้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.6% จากในปัจจุบันอยู่ที่ระหว่าง 5.25 ถึง 5.0% และมุมมองไปถึงสิ้นปี 2025 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะลดลงอยู่ที่ระดับ 3.7%
นายเรย์ ดาลิโอ มหาเศรษฐีชื่อดัง นักลงทุนระดับตำนาน และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทบริหารกองทุนประกันความเสี่ยงการลงทุน หรือเฮ็ดจ์ฟันด์ มีชื่อว่า บริดจ์วอเตอร์ แอสโซสิเอท (Bridgewater Associate) ซึ่งเป็นกองทุนเฮ็ดจ์ฟันด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ไม่ว่าเฟดจะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% หรือ 0.5% ก็ตาม ถ้าหากมองในภาพรวมทั้งหมด จะพบว่าการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.25% อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะถ้ามองสถานการณ์ของสินเชื่อกู้ยืมบ้านในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในขณะนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย และส่งผลกระทบกับประชาชนชาวอเมริกันเป็นจำนวนมากนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงมาถึง 0.5% จะส่งผลช่วยเหลือกับผู้กู้ยืมสินเชื่อซื้อบ้าน
ผลสำรวจของซีเอ็นบีซี เปิดเผยต่อไปว่ามีถึง 74% มองว่าเสร็จปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนกันยายน เพื่อต้องการที่จะรักษาภาวะเศรษฐกิจสหรัฐให้เกิดการชะลอตัวลงอย่างนิ่มนวล ในขณะที่มีถึง 15% มองว่าเป็นการกระทำที่ช้าเกินไป นอกจากนี้มี 11% มองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวนั้น เป็นการปรับลดที่เร็วเกินไป ส่งผลมีความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคต
ส่วนมุมมองเกี่ยวกับโอกาสของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะเกิดการชะลอตัวอย่างนิ่มนวล หรือจะเกิดภาวะถดถอยแรงนั้น พบว่ามี 53% ที่เศรษฐกิจสหรัฐมีความเป็นไปได้ที่จะชะลอตัวลงอย่างนิ่มนวลเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในขณะที่โอกาสของเศรษฐกิจสหรัฐจะเกิดภาวะถดถอยแรงอยู่ที่ 36% ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบจากเดือนมิถุนายน สำหรับมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ขยายตัวในปี 2024 จะอยู่ที่ 2% และในปี 2025 จะชะลอตัวลงเหลือที่ 1.7%