ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า อ้างอิงกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม (CCI) เดือนสิงหาคม 2567 ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดกัน และค่าดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคในไทยโดยรวม หรือ CCI ได้ปรับลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลายปัจจัยยังฉุดความเชื่อมั่นในช่วงที่เหลือของปี 2567 นี้
สำหรับ 2 ปัจจัยหลักที่กระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้แก่ เศรษฐกิจไทยชะลอตัว และรายได้ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ
ในแง่กลุ่มประชาชนไทยที่อยู่ในวัยทำงานที่ยังไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ มีดังนี้ อันดับ 1.พนักงานเอกชนมี 15.5 ล้านคน มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 48.7% อันดับ 2.เกษตรกร มี 10.5 ล้านคน มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 50.6% อันดับ 3.รับจ้างอิสระ หรือฟรีแลนซ์ มี 10 ล้านคน มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 46.8% และอันดับ 4.ผู้ประกอบการ มี 3.2 ล้านคน มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจอยู่ที่ระดับ 50%
ในแง่ภูมิภาค พบว่า 2 พื้นที่ที่มีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย ได้แก่ กรุงเทพและปริมณฑล 54% และภาคอีสาน 51.7% ขณะที่อีก 3 พื้นที่ที่ไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย ได้แก่ อันดับ 1.ภาคใต้ 45.8% อันดับ 2. ภาคเหนือ 46.3% และอันดับ 3.ภาคกลาง 49.7%
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2567 คาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ดีขึ้น มาจาก 3 ปัจจัยเสี่ยงยังต้องติดตาม ได้แก่ น้ำท่วมเกิดผลกระทบครัวเรือนและธุรกิจ ค่าเงินบาทผันผวนสูงกระทบส่งออกและท่องเที่ยว และผลของ Digital wallet ยังช่วยแค่กลุ่มคนเปราะบาง
ทั้งนี้ ระดับค่าของดัชนีมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 หากค่าของดัชนีมีค่าตั้งแต่ระดับ 50 ขึ้นไปหมายถึง ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ (อยู่ในช่วงเชื่อมั่น)และหากค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง ผู้บริโภคมีความไม่เชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจ (อยู่ในช่วงไม่เชื่อมั่น)