ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก เมื่อคืนวันที่ 27 กันยายน 2024 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,651.88 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -10.12 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.7% ส่งผลหยุดราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 8 ในเดือนกันยายน สำหรับสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เดิมอยู่ที่ 2,662.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งเกิดขึ้นในคืนผ่านมา 26 กันยายน 2024
ในขณะที่มีราคาสูงสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 2,685.42 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ นอกจากนี้ หยุดราคาทองคำในคืนผ่านมายังเป็นราคาปิดขึ้น 7 วันติดกันรวม +79.53 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +2.9%
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 2,674.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -21.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.6% ส่งผลหยุดราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 6 ในเดือนกันยายน สำหรับราคานิวไฮเดิมอยู่ที่ 2,695.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายนผ่านมา
ที่สำคัญ มีราคาสูงสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 2,702.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ส่งผลทำสถิติราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ และเป็นครั้งแรกที่ราคาทองคำแตะหลัก 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แม้จะได้เห็นในช่วงสั้นๆก่อนจะลดลงมา
ในแง่ผลตอบแทน พบว่า ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานกว่า 29% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงขณะนี้ นอกจากนี้ ราคาทองคำปีนี้มีแนวโน้มสูงที่จะให้ผลตอบแทนรายปีที่ดีที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ที่สำคัญ ราคาทองคำในไตรมาส 3 ทะยานขึ้น 14% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 8 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2016
สาเหตุจากนักลงทุนทำกำไรระยะสั้นหลังราคาทองคำเพิ่มสูงต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขรายจ่ายชาวอเมริกันในสิงหาคมเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งตรงตามที่ประเมินไว้ และลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านั้นที่ระดับ 0.2% ในแง่รายปี ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 2.2% ลดต่ำลงจากเดือนก่อนหน้านั้นที่ระดับ 2.5% ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่าลง แต่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดต่ำลง
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 56.7% จากเดิมที่ 63% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.5% และมีโอกาสที่ 41% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%